Singapore Culture Meat Plant
สิงคโปร์เปิดโรงงานเนื้อสัตว์ที่ปลูกในห้องแล็บที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย อีกหนึ่งในแห่งแรกๆ ของโลก
10 มิถุนายน 2565
- โรงงานที่เป็นเจ้าของโดยกลุ่มสตาร์ทอัพในสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ประกอบการชาวฮ่องกงนายลี กา ชิง แสดงให้เห็นว่าเนื้อสัตว์ที่ปราศจากการฆ่ากําลังกระโดดจากห้องปฏิบัติการไปยังสายการผลิตจากโรงงาน
- บริษัท Eat Just ได้รับการอนุมัติในปี 2563 ให้ขายไก่ที่ผลิตในห้องปฏิบัติการในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลให้ขายเนื้อสัตว์ที่เพาะเลี้ยงได้
Josh Tetrick ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Eat Just เพื่อสร้างโรงงานเนื้อสัตว์ที่ได้รับการปลูกฝังที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียในสิงคโปร์ รูปถ่าย: SCMP
ผู้ผลิตเนื้อสัตว์และไข่ทดแทนกําลังสร้างโรงงานที่ใหญ่ที่สุดเพื่อผลิตเนื้อสัตว์ที่ปลูกในห้องปฏิบัติการในเอเชียซึ่งจะตั้งอยู่ในสิงคโปร์
โรงงานขนาด 30,000 ตารางฟุตซึ่งเป็นเจ้าของโดย Eat Just Inc และมีกําหนดจะเปิดในไตรมาสแรกของปี 2566 จะมีกําลังการผลิตผลิตเนื้อสัตว์หลายหมื่นปอนด์จากเซลล์ บริษัท กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน มันจะเป็นที่ตั้งของเครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดเพียงแห่งเดียวในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ที่ปลูกจนเป็นผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน
นี่แสดงให้เห็นว่าเนื้อสัตว์ที่ปราศจากการฆ่ากําลังกระโดดจากห้องปฏิบัติการไปยังสายการผลิตของโรงงานได้อย่างไร ยังมีความท้าทายมากมายตั้งแต่การลดต้นทุนที่สูงและทําให้การผลิตขนาดใหญ่เป็นไปได้ไปจนถึงการชนะการอนุมัติด้านกฎระเบียบ Eat Just ได้รับการอนุมัติในปี 2563 ให้ขายไก่ที่ผลิตในห้องปฏิบัติการในสิงคโปร์ ซึ่งกลายเป็นรัฐบาลชุดแรกที่อนุญาตให้ขายเนื้อสัตว์ที่เพาะเลี้ยงได้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Josh Tetrick กล่าวว่าเขาต้องการให้เนื้อสัตว์ที่ปลูกเป็นโปรตีนจากสัตว์เพียงชนิดเดียวที่นําเสนอในเมนูในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า Eat Just ตั้งเป้าให้ต้นทุนของผลิตภัณฑ์มีความคล้ายคลึงหรือต่ํากว่าเนื้อไก่ เนื้อวัว และเนื้อหมูภายในสิ้นปี 2573
"เราจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่นี่ แจกจ่ายไปยังประเทศอื่น ๆ ในเอเชียจากที่นี่ และเรียนรู้จากผู้บริโภคที่นี่ซึ่งได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ากําลังก้าวล้ำหน้าของสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป" Tetrick กล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา
เนื้อสัตว์ทางเลือกจากเนื้อสัตว์ที่ทําจากพืชสู่เนื้อสัตว์อื่น ๆ ที่ใช้เซลล์สัตว์สกัดและปลูกในเครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพได้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความกังวลเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการดื้อยาปฏิชีวนะที่เพิ่มขึ้นในห่วงโซ่อุปทานอาหาร
"ระบบอาหารของเราในปัจจุบันไม่ใช่ระบบอาหารที่ยืดหยุ่น" Tetrick "มันเป็นระบบอาหารที่รับผิดชอบต่อก๊าซเรือนกระจกมากกว่าการขับเคลื่อนทรัพยากรทั้งหมดรวมกัน เราจําเป็นต้องสร้างระบบอาหารที่ลดความเสี่ยงแทนที่จะเร่งความเสี่ยงอย่างที่เป็นอยู่"
ที่มา: South China Morning Post
