Pig production Q4 67 to Retailer

สมาคมหมูส่งข้อมูลต้นทุนการผลิตสุกรไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ที่เฉลี่ย 75 บาทต่อกิโลกรัม ขอห้างค้าปลีกอย่าจัดโปรโมชั่นจนกระทบราคาฟาร์ม
24 มกราคม 2568 สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติอัพเดทต้นทุนการผลิตสุกรไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ที่ 74.87 บาทต่อกิโลกรัม ขอความร่วมมือห้างค้าปลีกให้ตั้งราคาจำหน่ายปลีกส่วนสะโพก หัวไหล ไม่ควรต่ำกว่า 128 บาทต่อกิโลกรัมเพื่อไม่ให้เกษตรกรขาดทุน
          นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้ให้ข่าวว่า “หลังจากกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรได้ออกจากอาชีพ เลิกเลี้ยง แม้กระทั่งลดกำลังการผลิตลงไปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากทนสภาวะขาดทุนไม่ไหว โดยที่ผ่านมากลุ่มผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศ ได้ส่งหนังสือแนวทางการตั้งราคาจำหน่ายปลีกชิ้นส่วนเนื้อสุกร เพื่อไม่ให้สร้างผลกระทบกับราคาสุกรขุนมีชีวิตหน้าฟาร์มตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 เป็นต้นมา การตั้งราคาของห้างค้าปลีกที่ขอความร่วมมือให้ยึดถือตามโครงสร้างต้นทุนฟาร์ม เพื่อไม่ให้เกษตรกรถูกใช้ราคาห้าง มาอ้างเพื่อกดราคาหน้าฟาร์ม ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปรากฏว่าได้รับความร่วมมือน้อยมาก เป็นผลให้เกษตรกรจำนวนมากหยุดเลี้ยงและลดกำลังการผลิต


          ปัจจุบันราคาต้นทุนฟาร์มจากการคาดการณ์ล่าสุดของคณะอนุวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตสุกร โดยมีสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเป็นเลขาฯ คณะอนุกรรมการฯ ดังกล่าว ได้คาดการณ์ต้นทุนไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ที่ผ่านมาไว้ที่ประมาณ 74.87 บาทต่อกิโลกรัม หรือจำง่ายๆ คือ 75 บาทต่อกิโลกรัม ที่เป็นต้นทุนการผลิตสูงสุดในกลุ่มของฟาร์มที่ผลิตลูกสุกรเอง ซึ่งถ้าใช้ต้นทุนดังกล่าวคูณด้วย 1.7 เท่า จะได้เท่ากับราคาสุกรเนื้อแดงที่เป็นส่วนของสะโพกและเนื้อไหล่อยู่ที่ประมาณ 127.50 บาท ต่อกิโลกรัมซึ่งเป็นราคาที่ต่ำมาก และเป็นราคาขอความร่วมมือไม่ให้ต่ำกว่านี้ เนื่องจากการค้าในห่วงโซ่ดังกล่าวเปลี่ยนไป ปลายทางถูกใช้เป็นราคาอ้างอิงกลับมาที่หน้าฟาร์มทำให้มีการขาดทุนอย่างยาวนาน


          โดยปัจจุบันใช้ต้นทุนของไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ที่มีต้นทุนการผลิตสุกรลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาขั้นต่ำอยู่ในระดับราคาที่ไม่สูงนัก โดยราคาซื้อขายจริงของสุกรขุนหน้าฟาร์มปัจจุบันมีระดับราคาที่กระจายตัวมากขึ้น ทำให้เกษตรกรได้ราคาที่ดีขึ้นเทียบเท่า หรือ เริ่มเกินกว่าต้นทุน จึงทำให้การตั้งราคาปลีกส่วนเนื้อแดงของห้างค้าปลีกอยู่ในระดับราคาที่ไม่ต่ำกว่าระดับราคาขอความร่วมมือ”


          อย่างไรก็ตามสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติจะเริ่มใช้แนวทางในขอให้ภาครัฐมีการออกหลักเกณฑ์เพื่อบังคับใช้กฎหมาย จากกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการที่เป็นกฎหมายป้องกันการผูกขาด ที่ได้บัญญัติเรื่องการตั้งราคาต่ำเกินไป หรือสร้างความปั่นป่วนให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้ามากำกับดูแลโดยจะยื่นหนังสือเพื่อให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการตั้งหลักเกณฑ์ดังกล่าว  เพื่อจะเป็นแนวทางให้เกษตรกรทั้งประเทศได้รับการดูแลในเรื่องของความเป็นธรรมของราคาผลผลิตจากหน้าฟาร์ม ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาสู่สภาวะที่ดีขึ้นในกลุ่มของการเลี้ยงและการค้าสุกร ในขณะที่ระดับราคาที่ปรับสัดส่วนการคำนวณราคาจำหน่ายปลีกได้ลดจำนวนเท่าลงมาจากเดิมในอดีตที่ใช้ประมาณ 2 เท่า โดยจะเห็นว่าถ้าใช้เกณฑ์เดิมราคาจำหน่ายปลีกของส่วนเนื้อแดงจะอยู่ที่ประมาณ 150 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ 1.7 เท่าราคาส่วนเนื้อแดงจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 127.50 บาทต่อกิโลกรัม
          นายสิทธิพันธ์ได้กล่าวทิ้งท้ายขอให้ห้างค้าส่งค้าปลีกให้ความร่วมมือในเรื่องของเกณฑ์ราคาดังกล่าว เพื่อที่ระหว่างห่วงโซ่ด้วยกัน โดยไม่ต้องมีการใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาบังคับกัน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการประกอบอาชีพตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ในกลุ่มของอุตสาหกรรมการผลิตสุกรของไทย

Visitors: 454,341