TSVA NE Pig Farmers
ปิดท้าย TSVA สัญจรอีสาน อุดรธานี หมูอีสานพร้อมเดินหน้าต่อกับมาตรฐานใหม่ GAP สุกรแม้ต้องเผชิญสารพัดวิกฤตในปัจจุบัน
25 สิงหาคม 2566 อุดรธานี - ผู้เลี้ยงสุกรอีสานตอนบน ยังไม่ทิ้งอาชีพการเลี้ยงสุกรเข้าร่วมการอบรมหลักสูตร "การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีด้านปศุสัตว์ สำหรับผู้ประกอบความสุกร" จำนวนมากและตั้งใจตลอดการอบรม
คุณกษาณ ปิยะชาติสกุล กรรมการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เป็นผู้ประสานจัดงานได้กล่าวรายงานให้กับประธานในการจัดงาน นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ให้เกียรติมาเป็นประธานในการจัดการอบรมหลักสูตรการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีด้านปศุสัตว์ สำหรับผู้ประกอบการฟาร์มสุกร ซึ่งเป็นหนึ่งใน TSVA สัญจรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คุณสิทธิพันธ์กล่าวเปิดงาน โดยขอบคุณสมาคมสัตวแพทย์ควบคุมความสุกรไทย ที่ให้ความร่วมมือ กับ ผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาด้วยดี เพื่อ จัดการอบรมให้เกษตรกรในพื้นที่ได้ขึ้นทะเบียน และรับความรู้
สัตวแพทย์หญิง ดร.เมตตา เมฆานนท์ สมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทย ที่ให้เกียรติเป็นวิทยากร สำหรับโครงการ สัญจรภาคตะวันออกเฉียงเหนือในทุกครั้ง ได้นำเสนอในหัวข้อ “การยกระดับ Biosecurity สู้ ASF จากฟาร์มที่ประสบความสำเร็จ” โดยปัจจุบันฟาร์มสุกรในประเทศไทยเกษตรกรมีความรู้ด้านนี้มากขึ้น และมีความมั่นใจในการนำแนวทางไปปฏิบัติ ทำให้การต่อสู้กับ ASF ในประเทศไทย ไม่ได้สร้างความกังวล เช่นเดียวกับตอนเริ่มการระบาดเท่าไรนัก
ดร.เมตตา นำเสนอปัญหาหลักๆ ของเชื้อ ASF ที่เข้าสู่ฟาร์ม ยังคงเป็นปัญหาจากคนงานอันดับ 1 ซึ่งสามารถเกิดการติดเชื้อได้ทั้งฟาร์มในระบบเปิดและระบบปิด โดยปัจจุบันหลายฟาร์มได้เริ่มเพิ่มความเข้มงวดในการเข้าฟาร์ม ของคนงาน ไม่ใช่การพ่นฆ่าเชื้อแบบสมัยก่อนโดยเน้นให้เป็นการอาบน้ำสระผมอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจจะต้องมีการติดเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มเติมสำหรับบางพื้นที่ การเพิ่มความเข้มงวดกับกลุ่มพาหะที่เป็นสัตว์ต่างๆ ที่เข้ามาในฟาร์ม โดยเฉพาะหมาแมว ที่เคยมีการทดสอบ SWAB เชื้อจากหมาแมว ปรากฏว่ามีเชื้อสูงมาก เช่นกัน การจัดการระบบระบายน้ำต่างๆ ในฟาร์ม การใช้เข็มฉีดวัคซีนป้องกันโรคชนิดต่างๆ เช่น PRRS Circovirus ต้องเข้มงวดในแต่ละกลุ่มวัยของสุกรไม่ให้มีการใช้ข้ามกลุ่ม การคัดเลือกสุกรเพื่อการจำหน่ายมีการใช้ CCTV ในการคัดเลือกสุกรให้กับผู้ซื้อทำการคัดเลือกแทนการเข้าฟาร์ม
การให้ความสำคัญกับการตรวจสอบติดตาม ทั้งทีมงาน Audit ภายในและทีมงาน Audit จากภายนอก ที่มีการตั้ง Checklist ในการ Audit อย่างชัดเจนและเข้มงวดตามรอบที่กำหนด การเพิ่มความเข้มงวดกับการคุมมุ้งกันนกและแมลงที่เป็นจุดหนึ่งที่อาจเกิดช่องโหว่หรือจุดชำรุดของมุ้งคลุม ซึ่งต้องมีการตรวจตราเป็นประจำและมีการใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมในการที่จะไม่ให้จุดคุมมุ้งมีการเปิดหรือเป็นช่องโหว่ได้ ซึ่งรวมถึงจุดที่เป็นพวกแผง Cooling pad ต่างๆ การวางจุดกาวดักหนูดักแมลงต้องเปลี่ยนเสมอๆ ปัจจุบันหลายฟาร์มเริ่มนำแนวทางการให้เบี้ยขยัน และการทำโทษที่เกี่ยวกับการทำตามระบบ Bio Security มาใช้กับคนงาน การจัดการแหล่งน้ำของฟาร์มและระบบประปาฟาร์ม เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะเป็นจุดที่จะติดเชื้อไม่ได้เลย เช่นกัน เพราะเป็นจุดที่เกิดการติดและกระจายเชื้อได้ง่าย มากจุดหนึ่ง
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือขอขอบพระคุณทีมงาน TSVA ASF CPG ที่ประกอบไปด้วย หมอเมตตา หมอวิลาศ หมอระพี หมอเติมสิทธิ์ หมอกิรนันท์ และหมอยมุนา มา ณ ที่นี้ กับการเตรียมข้อมูลมาให้ความรู้ร่วมกับกรมปศุสัตว์ในการอบรมการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีด้านปศุสัตว์ สำหรับผู้ประกอบการฟาร์มสุกร
หัวข้อ "มาตรฐาน กับ การอยู่รอดจาก ASF สำหรับรายย่อย" นำเสนอโดยนายอุดมศักดิ์ แก้วจันทร์วงษ์ ฟาร์มหมูยโสดอทเน็ต จังหวัดยโสธร อีกตำแหน่งหนึ่งของคุณอุดมศักดิ์ที่มีความสำคัญมากในปัจจุบัน คือ การเป็นเลขาธิการชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ถือว่ากลุ่มดังกล่าวมีการเรียกร้องอย่างเป็นรูปธรรมให้ กับ ผู้ประกอบการการเลี้ยงสุกรรายย่อย โดยเฉพาะการเดินหน้ากับคณะกรรมการการแข่งขันและการค้าในเรื่องของ การผลักดันในเรื่องของข้อห้ามที่จะควบคุมไม่ให้มีการขยายตัวของ Pork Shop และการกำหนดราคาจำหน่ายปลีกที่ต่ำมากซึ่งเป็นการสร้างความไม่เป็นธรรมในสังคมที่เกิดจากความสามารถในการแข่งขันที่ต่างกันของผู้ค้าปลีกเนื้อสุกรในชุมชนต่างๆ
การนำเสนอของคุณอุดมศักดิ์ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับกลุ่มฟาร์มรายย่อยที่ยังคงอยู่ในระบบของ GFM โดยในกรณีที่ฟาร์มถึงเกณฑ์ที่จะขอการยื่นรับรอง GAP ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน โดยประโยชน์ที่จะได้ประกอบด้วย
- ระบบ Bios Security เข้มแข็ง เป็นระบบชัดเจนมากขึ้น
- การเคลื่อนย้ายสัตว์ การประเมินความเสี่ยงสะดวกขึ้น
- เพิ่มความมั่นใจของคู่ค้า เกิดความปลอดภัยของผู้บริโภค
- เป็นผลดีกับธุรกิจการเลี้ยงสุกร ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
- เป็นการปรับตัวของธุรกิจให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ส่งผลต่อความอยู่รอด
คุณอุดมศักดิ์ได้สรุป ทางลอดของรายย่อย เป็น 4 ป คือ ปิด - เปิด - ปรับ - เปลี่ยน
- ปิดประตูฟาร์ม ปิดประตูคอกและบริเวณคอกให้มิดชิด ปิดรับปัจจัยเสี่ยงและปิดจุดอ่อน เลี้ยงระบบปิด การปิดฝูง "สุขภาพสำคัญกว่าประสิทธิภาพ"
- เปิดหู เปิดตา เปิดใจ เปิดโอกาส รับข่าวสารวิชาการให้ทันสมัยอยู่เสมอ
- ปรับรูปแบบการเลี้ยง ใช้รางแยก ลดการทำงานสัมผัสหมู ลดมื้ออาหาร ลดการเข้าคอกหมู ลดกิจกรรมกับหมู หรือรถการขายหมูบ่อยๆ ปรับตัวเข้าสู่มาตรฐานที่เหมาะสม
- เปลี่ยนวิธีการเลี้ยง ใช้ AI เลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เอง ผสมพันธุ์เองในฟาร์ม ทำคลอดเอง ฉีดยาเอง ตอนหมูเอง จับหมูขายเอง เปลี่ยนแนวคิด "เกษตรกรรายย่อย สู่ นักธุรกิจ"
และการนำเสนอมุมมองการจัดการระบบ Biosecurity ในต้นทุนที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพเหมาะสมกับฟาร์มรายย่อย เพราะ ASF จะมาเปลี่ยนรูปแบบ "การเลี้ยงหมูแบบเดิมๆ โดยสิ้นเชิง"
สำหรับหัวข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำฟาร์มปศุสัตว์ ที่นำเสนอโดย นายสัตวแพทย์ปัญญาวัฒน์ ใสกาง นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษส่วนมาตรฐานการปศุสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์เขต 4 และ หัวข้อการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีด้านปศุสัตว์ สำหรับผู้ประกอบการฟาร์มสุกร โดยสัตวแพทย์หญิงเกตุวดี โคตรภูเวียง นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษส่วนมาตรฐานการปศุสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์เขต 4 สามารถอ่านได้โดยละเอียดจากไฟล์ที่แนบท้าย 3 ไฟล์