NE Annual Meeting 2024
ประชุมใหญ่หมูอีสาน เลือกคุณชยุต รุ่งพัฒนาชัยกุล หรือ เฮียตง ศรีสุรภาฟาร์ม นายกสมาคมคนใหม่
8 สิงหาคม 2568 ชัยภูมิ - สมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประชุมใหญ่เลือกนายกคนใหม่ พร้อมเดินหน้าฟื้นฟูรายย่อยหลังการเติบโตการเลี้ยงสุกรในภาคอีสานมีมากขึ้น
คุณสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี เพื่อรายงานผลการดำเนินงาน กิจกรรมต่างๆของสมาคมและจัดให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ในครั้งนี้ เพื่อเป็นผู้นำที่จะนำพาอุตสาหกรรมสุกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เดินหน้าต่อไป
นายสัตวแพทย์อดิศร ชาติสุภาพ ปศุสัตว์เขต 3 ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี และได้บรรยายพิเศษ "ปศุสัตว์ ทำด้วยใจ ทำได้ไว ทำได้จริง" โดยได้กล่าวถึงอาชีพเกษตรกรภาคปศุสัตว์ถือว่าเป็นพี่น้องครอบครัวเดียวกัน การทำด้วยใจ คือ การทำด้วยวิชาชีพของกรมปศุสัตว์ให้เกิดผลสำเร็จรวดเร็วทันใจ โดยการทำได้จริงสามารถพิสูจน์ได้จากผลการจัดการ ยกตัวอย่าง เช่น การร่วมจัดการโรคระบาด ASF ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2564-2565 โดยปัจจุบันอยู่ในสภาวะการที่สามารถควบคุมได้ดีขึ้น โดยการจัดการฟาร์มที่ดีของผู้เลี้ยง ปัจจุบันกรมปศุสัตว์เข้าสู่ในยุคของดิจิตอลมากขึ้นกับทุกระบบในการดำเนินการประสานกับเกษตรกร
ในช่วงของการสัมมนาในหัวข้อ "บทบาทสมาคมกับการพัฒนาและส่งเสริมการเลี้ยงสุกรเพื่อการค้า" โดย 5 วิทยากร
รศ.ดร.เยาวมาล ค้าเจริญนายกสมาคมนักอาหารสัตว์ไทยได้กล่าวถึงบทบาทของสมาคม
• ทำการวิจัยวัตถุดิบอาหารสัตว์ในกลุ่มของมันสำปะหลังเป็นระยะเวลาหลายปีเพื่อนำผลการวิจัยไปออกสูตรอาหารทั้งสุกรและอาหารภาคปศุสัตว์ทั่วไป
• โดยส่วนตัวท่านนายกได้ให้การสนับสนุนการเลี้ยงสุกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาโดยตลอด โดยฟาร์มขนาดใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในปัจจุบัน ได้ร่วมกับท่านนายกสมาคมในการจัดตั้งสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่ปี 2550 หลังจากนั้นผลผลิตสุกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็มีคุณภาพดีขึ้น โดยเฉพาะจากฟาร์มชั้นนำในกลุ่มที่ร่วมจัดตั้งสมาคม
• นอกจากการพัฒนาสูตรอาหารให้กับสุกรแล้วยังมีการพัฒนาสูตรอาหารต่างๆ ให้กับไก่เนื้อและไก่ไข่
• จัดการอบรมนักโภชนาการอาหารในเรื่องของการตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบอาหาร โดยเฉพาะในกลุ่มโปรตีนทั้งปลาป่นและกากถั่วเหลือง
คุณอรรถพล ชินภูวดล ผู้จัดการสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สมาคมฯ มีการทำงานร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติมาอย่างต่อเนื่อง โดยสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยถือว่าเป็นต้นน้ำของห่วงโซ่อาหารของไทย ปัจจุบันห่วงโซ่อาหารของประเทศไทยมีมูลค่ามากถึง 1 ล้านล้านบาท ทุกข้อต่อของห่วงโซ่มีความสำคัญที่สามารถกระทบถึงกันกรณีมีผลกระทบกับช่วงใดช่วงหนึ่ง
• วิสัยทัศน์ของสมาคมฯ เป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยมั่นคงและยั่งยืน โดยมีภารกิจในการประสาน และร่วมกำหนดแผนยุทธศาสตร์ กลยุทธ์และโครงการกับหน่วยงานรัฐและเอกชนในห่วงโซ่ปศุสัตว์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ในวิสัยทัศน์
• การเติบโตของปริมาณการผลิตอาหารสัตว์ตั้งแต่ปี 2531-2568 ถือว่าสูงมากอยู่ในระดับ 8.82% แต่มีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัว เหลือเพียง 1.15% ในช่วง 6-7 ปีหลัง(2562-2568) เนื่องจากมีปัญหาเรื่องอุปสรรคหลายอย่าง เช่น การจัดหาวัตถุดิบ และต้นทุนที่สูงขึ้น
• ปี 2568 ประมาณการบริโภคอาหารสัตว์ทั้งหมดไว้ที่ 21.8 ล้านตัน โดยเป็นไก่เนื้อ 43% สุกร 29% ไก่ไข่ 13% โค 7% ปลา 3% ปิด 3% และกุ้ง 2%
• สถานการณ์แนวทางการนำเข้าวัตถุดิบจากสหรัฐ เดิมโควต้านำเข้าข้าวโพดในกรอบ WTO 54,700 ตันอัตราภาษีนำเข้า 20% เกินจากนี้จะเป็นนอกโควต้าภาษีนำเข้าที่ 73% โดยภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองจาก 2% จะเป็น 0% เช่นเดียวกับกากข้าวโพด (DDGS : Distiller’s Dried Grains with Solubles) ปัจจุบันภาษีนำเข้าอยู่ที่ 9% ก็จะเป็น 0% เช่นกัน โดยราคากากข้าวโพดจะไปแข่งขันกับราคากากถั่วเหลืองอีกที
• โดยมีเงื่อนไขจะต้องรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศทั้งหมดโดยจะต้องมีการบริหารการนำเข้า ซึ่งอาจจะต้องมีการใช้มาตรการ 3 ต่อ 1 มาใช้กับข้าวโพดนำเข้าเช่นกัน
• ราคาประกันสำหรับเกษตรกรกับผลผลิตข้าวโพดที่ความชื้น 30% อยู่ที่ 7.05 บาทต่อกิโลกรัม กรณีความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคารับซื้อหน้าโรงงานอาหารสัตว์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ราคาประกันจะอยู่ที่ 9.80 บาท ต่อกิโลกรัม
• ปัจจุบันสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยเริ่มมีการเจรจากับ U.S.Grains Council หรือ กลุ่มพ่อค้าข้าวโพดจากสหรัฐแล้ว โดยมีการร่วมหารือกันล่าสุด 31 กรกฎาคม 2568 ที่กรุงเทพฯ
• สรุปประเด็นพืช GMO หรือ พืชตัดต่อพันธุกรรม (Genetically Modified Organism) ทั่วโลกมีการใช้พืช GMO กันทั้งผลิตและนำเข้ารวม 91 ประเทศ ไทยนำเข้าถั่วเหลืองและกากถั่วเหลือง GMO มาใช้ในการผลิตอาหารและอาหารสัตว์กว่า 30 ปีแล้ว ประเทศที่ยังไม่อนุญาตให้ผลิตส่วนหนึ่งมาจากประเทศนั้นไม่ใช่ประเทศเกษตรกรรม โดยการใช้พืช GMO ไม่กระทบกับการส่งออกสินค้าเนื้อสัตว์ เนื่องจากความเป็น GMO สูญสลายไปในกระบวนการย่อยสลายของสัตว์ ที่จะไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งที่สามารถพิสูจน์ความเป็น GMO ได้
ผศ.ดร.น.สพ.ดุสิต เลาหสินณรงค์ กรรมการบริหารสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เนื่องจากสมาคมที่เกี่ยวกับสัตวแพทย์มีเป็นจำนวนมาก สัตวแพทยสมาคมฯ จึงเน้นไปเรื่อง
• สุขภาพคน สุขภาพสัตว์ สิ่งแวดล้อม
• โดยทำงานร่วมกับแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
• ประสานหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เช่น กระทรวงทรัพยากรธรณีและสิ่งแวดล้อม โดยจะประสานในเชิงไม่ให้มีกฎระเบียบในการบังคับกับกลุ่มของฟาร์มภาคปศุสัตว์มากจนเกินไป โดยเฉพาะกลุ่มฟาร์มสุกรจะได้ในเรื่องของมาตรฐานของเนื้อสุกรที่จะไม่ปนเปื้อน
สพ.ญ ดร เมตตา เมฆานนท์ นายกสมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทย ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สมาคมมีการส่งเสริมทั้งทางตรงและทางอ้อมมาอย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมฯ เช่น ให้ความรู้มาตรฐานฟาร์มต่างๆ ทั้งระบบ GAP GFM โดยมีเป้าหมายตั้งแต่การปลอดโรคปากเท้าเปื่อย และการปลอดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร สู่ฟาร์มที่เป็น FMD Fee ASF Free ต่อยอดจนถึงระบบคอมพาสเม้นท์ที่สมาคมมีส่วนเป็นคณะทำงานร่วมในการผลักดันการสร้างระบบคอมพาสเม้นท์เพื่อการส่งออก ซึ่งได้รับการยอมรับจาก FAO และ WOAH
ระหว่างการอบรมที่ผ่านมาก็มีเจ้าหน้าที่ของ FAO ที่เข้ามาร่วมให้ความรู้กับเกษตรกร โดยให้ความร่วมมือกับสมาคมฯ ในกรณีของ Compartment เพื่อการส่งออก จะเป็นเครื่องมือหนึ่ง ในการที่จะเพิ่มช่องทางในการตลาดระหว่างประเทศ ด้วยห่วงโซ่ที่เกี่ยวข้องของการประกอบการ จะเกี่ยวข้องกับมาตรฐาน ตั้งแต่โรงงานอาหารสัตว์ ฟาร์มมาตรฐาน โรงเชือดและโรงชำแหละ การเชื่อมโยงของแต่ละฟาร์มในระบบเดียวกันก็จะอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน โดยระบบดังกล่าวจะมีกระบวนการในการวิเคราะห์ประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการเกิดโรคสุกร โดยใบรับรองคอมพาสเม้นท์จะออกโดยกรมปศุสัตว์ โดยใบอนุญาตมีอายุ 3 ปี ซึ่งจะมีการประเมินในช่วงของการต่ออายุทุกครั้ง ปัจจุบันประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียอยู่ระหว่างการประเมินระบบคอมพาสเม้น เพื่อนำเข้าเพิ่มเติม จากการนำเข้าจากยุโรป
นายสัตวแพทย์ไพรวัน สีพั่ว นายกสมาคมธุรกิจเวชภัณฑ์สัตว์ ปัจจุบันสมาคมมีสมาชิก 62 ราย บทบาทของสมาคมจะมีการส่งเสริมให้มีการใช้เวชภัณฑ์ที่มาตรฐานจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ ตรวจสอบย้อนกลับได้ และถูกกฎหมาย สนับสนุนเรื่อง Food Safety แก่ผู้บริโภคสร้างความเข้าใจแก่สังคม และภารกิจที่สำคัญมากต่อวงการปศุสัตว์ คือ การผลักดันให้กองอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กำหนดค่าตกครั้งสูงสุดของสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องควบคุมค่าตกค้างของสาร (MRLs) ไม่ให้ถึงผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้ฟาร์มปศุสัตว์สามารถที่จะใช้เวชภัณฑ์ได้อย่างถูกต้องไม่เกิดผลกระทบ ต่อ ผลิตภัณฑ์สินค้าปศุสัตว์ สมาคมมีส่วนร่วมในด้านของการเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในบางช่วงของคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ หรือ Pig Board
ในประเด็นการพัฒนาและส่งเสริม นายกสมาคมได้ชี้ให้เห็นถึงความเกี่ยวโยงในเรื่องของความคงอยู่ทั้งห่วงโซ่ ทั้งฟาร์มและบริษัทเอกชนด้านเวชภัณฑ์ต่างๆ
คุณวิวัฒน์ วัฒนะอักษร ธุรกิจเกษตรภัณฑ์ บริษัท เกษตรภัณฑ์อกริเทค จำกัด หรือ KPI มาปิดท้ายรายการก่อนเข้าสู่ช่วงประชุมใหญ่สามัญประจำปี เป็นการให้ความรู้โดย ในหัวข้อ Biosecurity เพื่อความปลอดโรคอย่างยั่งยืน โดย KPI เป็นผู้นำในการผลิตติดตั้ง และจำหน่ายไซโลไฟเบอร์กลาส รวมถึงอุปกรณ์ที่ผลิตจากไฟเบอร์กลาส มีทีมงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตรงกับความต้องการของฟาร์มปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีทั้งส่งออกและรองรับตลาดในประเทศ
ในช่วงของการประชุมใหญ่ คณะกรรมการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้มีการรายงานผลการดำเนินงานและกิจกรรมต่างๆ ในช่วงปี 2567 ต่อเนื่องถึงปี 2568
ช่วงท้ายมีการออกเสียงเลือกนายกสมาคมคนใหม่ ซึ่งคุณชยุทธ รุ่งพัฒนาชัยกุล หรือ เฮียตรง บริษัท ศรีสุรภาฟาร์ม จำกัด จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คนใหม่ต่อจากนายสิทธิพันธ์ ธนากิจภิญโญ ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติอีก 1 ตำแหน่ง
หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ช่วงค่ำมีงานสังสรรค์ หมูอีสาน สานสัมพันธ์ สู่ชัยภูมิ ที่เป็นไปด้วยบรรยากาศสนุกสนาน มีการร่วมจับฉลากของรางวัลให้กับผู้ร่วมกิจกรรมดังกล่าว
โดยในวันรุ่งขึ้นสมาชิกสมาคมบางส่วนได้ร่วมทัศนศึกษา "สิงหาพาแม่เที่ยวทุ่งดอกกระเจียวบาน" ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดชัยภูมิ เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเข้ามาเยี่ยมชมที่ในช่วงดอกกระเจียวบาน ในช่วงมิถุนายน ถึง สิงหาคมของทุกปี
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือขอขอบพระคุณสมาชิกผู้เลี้ยงสุกร บริษัทด้านการเลี้ยงสุกร ฟาร์มสุกร ภาคธุรกิจจากบริษัทต่างๆ และสื่อมวลชนสายปศุสัตว์ ที่ร่วมให้การสนับสนุนในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้
สำหรับกิจกรรมในครั้งต่อไปของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเป็นการจัดร่วม กับ สมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทย ในหัวข้อ TSVA สัญจร ขันน๊อต Biosecurity ที่จังหวัดศรีสะเกษ ในวันจันทร์ที่ 1 กันยายน 2568 ซึ่งจะเป็นการให้ความรู้ด้านการจัดการฟาร์ม การจัดการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในเขตภาคอีสานตอนล่าง ภายในการกำกับดูแลโดยสำนักงานปศุสัตว์เขต 3 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ยโสธร, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อุบลราชธานี, และอำนาจเจริญ