Letter to Modern Trade

สมาคมหมูส่งหนังสือด่วน ห้างค้าส่ง ค้าปลีก ร้านหมู KICK OFF เริ่มต้นวันพระพรุ่งนี้ ตั้งราคาสุกรฟาร์ม ราคาส่งเข้าจุดจำหน่าย และราคาจำหน่ายปลีกเนื้อสุกร ตลอดห่วงโซ่ตามโครงสร้างต้นทุนการผลิตสุกร แบบค่อยเป็นค่อยไป เป้าหมายต้นทุนที่ 80 บาท

9 มกราคม 2567 สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ – สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเดินหน้าแก้ปัญหาให้ผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศ จากความเห็นร่วมที่ประชุม 4 มกราคม ที่ประสงค์ช่วยผู้เลี้ยงสุกรฝ่าวิกฤตหมูเถื่อนทำลายหมูไทยในครั้งนี้ไปให้ได้ ส่งหนังสือแนวทางปฏิบัติถึง 9 องค์กร กลุ่มฟาร์มครบวงจร และห้างค้าส่ง ค้าปลีก

          นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ นำเจตนารมย์ของการประชุมเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567 ที่ประชุมเห็นไปในทางเดียวกัน คือ ต้องดูแลผู้ผลิตต้นทางไม่ให้เกิดความเสียหายที่ดำเนินมากว่า 10 เดือน กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรเห็นชอบให้แจ้งกลุ่มผู้ค้าส่ง ค้าปลีก ผู้ค้าส่งสุกรเข้าห้าง ผู้ค้าสุกรหน้าฟาร์ม และฟาร์มเกษตรครบวงจร ให้ปรับระดับราคาตามโครงสร้างต้นทุนสุกรขุนมีชีวิต ณ น้ำหนักขายที่ประมาณ 100 กิโลกรัม โดยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 80 บาทต่อกิโลกรัม  แบบค่อยเป็นค่อยไป โดยส่ง 9 องค์กร ประกอบด้วย

          บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด(มหาชน)

          บริษัท บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด(มหาชน)

          บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด

          บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด

          บริษัท ฟู้ดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด

          บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด

          บริษัท วี.ซี.มีท จำกัด

          บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)

          บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด

 

          โดยเนื้อหาในหนังสือฉบับนี้ระบุว่า

          “จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร้อยเอกธรรมนัสพรหมเผ่าเป็นประธานการประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาความเดือดร้อนของผู้เลี้ยงสุกรจากการขายสุกรมีชีวิตต่ำกว่าต้นทุนการผลิตมาเป็นเวลากว่า 10 เดือนเมื่อวันที่ 4 มกราคม2567 ที่ประชุมมีความเห็นไปในแนวทางเดียวกันคือต้องดูแลผู้ผลิตต้นทางไม่ให้เกิดความเสียหายอีกต่อไป

กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศจึงเห็นชอบให้แจ้งกลุ่มผู้ค้าส่งค้าปลีกผู้ค้าส่งสุกรเข้าห้างผู้ค้าสุกรหน้าฟาร์มและฟาร์มเกษตรกรให้ปรับฐานระดับราคาดังนี้

  1. ในวันพระที่ 10 มกราคม 2567 ผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศ จะขอปรับฐานราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ในขั้นแรกที่ 68-74 บาทต่อกิโลกรัม (จากราคาเป้าหมายตามต้นทุนการผลิต ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อเป็นเกณฑ์กำหนดราคาขายสุกรมีชีวิตในวันพระถัดไป)
  2. ขอให้ห้างค้าส่ง ค้าปลีก และผู้ค้าส่งชิ้นส่วนสุกรเข้าห้าง กำหนดราคาชิ้นส่วนเนื้อสุกรตามโครงสร้างต้นทุนการผลิตสุกรมีชีวิตน้าฟาร์ม ตามข้อ 1
  3. จากระดับราคาในข้อ 2 จะทำให้ห้างค้าส่ง ค้าปลีก ใช้เป็นเกณฑ์ในการกำหนดราคาจำหน่ายปลีกชิ้นส่วนต่างๆ ให้สอดคล้องตลอดห่วงโซ่การผลิต

ผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศขอขอบพระคุณท่านที่เข้าใจปัญหาและยินดีปฏิบัติตามข้อหารือจากที่ประชุมฯเมื่อวันที่4 มกราคม2567 จึงขอให้ท่านดำเนินการตามขั้นตอนการปรับฐานราคาดังที่กล่าวไว้ข้างต้นเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้กับทุกห่วงโซ่ของการผลิตที่ช่วยดูแลกันเพื่อลดความเสียหายของอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรต้นทางผลักดันเศรษฐกิจโดยไม่ให้กลุ่มหนึ่งกลุ่มใดต้องเดือดร้อนและเกิดภาระหนี้สินล้นพ้นตัว

โดยราคาหน้าฟาร์มที่จะเริ่มต้นในวันพระที่ 10 มกราคม 2567 จะเป็นช่วงราคาทั้งประเทศระหว่าง 68-74 บาทต่อกิโลกรัม จากราคาเป้าหมายตามต้นทุนการผลิต ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อเป็นเกณฑ์กำหนดราคาขายสุกรมีชีวิตในวันพระถัดไป คาดว่าราคาจะทยอยเข้าสู่ต้นทุนการเลี้ยงก่อนเทศกาลตรุษจีนในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะสามารถยุติปัญหาการขาดทุนอย่างยาวนานได้”

อย่างไรก็ตามนายสิทธิพันธ์ยังฝากให้กรมปศุสัตว์ และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ "พญานาคราช" ช่วยสอดส่อง กวาดล้างการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนสุกรลักลอบที่ฝังตัวตามห้องเย็นต่างๆ ให้หมดสิ้นโดยเร็ว เพราะยังปรากฏการเคลื่อนย้ายอยู่เป็นจำนวนมาก โดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กำลังดำเนินการทำเรื่องให้มีการเพิ่มเติมฟาร์มต้นทาง กับ สินค้า ปศุสัตว์ OK เพื่อสร้างกฎเกณฑ์ให้สังคมดูแลกันและกัน ลดความแตกแยกในอุตสาหกรรมสุกรทั้งหมด ที่ไม่เป็นผลดีต่อบ้านเมืองแต่ประการใด ถ้ามีการตอบโต้กันไปมาถึงขั้นยื่นถอดถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่จะนำมาซึ่งความเสียหายที่บานปลายต่อระบบเศรษฐกิจทั้งประเทศ  

Visitors: 396,837