รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ขึ้นเหนือให้ความรู้ ASF เกษตรผู้เลี้ยงสุกรเตรียมพร้อมป้องกัน ติวเข้มด่านกักกันสัตว์เชียงรายให้เพิ่มความเข้มงวดยิ่งขึ้น

รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ขึ้นเหนือให้ความรู้ ASF เกษตรผู้เลี้ยงสุกรเตรียมพร้อมป้องกัน ติวเข้มด่านกักกันสัตว์เชียงรายให้เพิ่มความเข้มงวดยิ่งขึ้น

วันที่ 17 ตุลาคม 2561 นายสัตวแพทย์จีระศักดิ์ พิพัฒนพงศ์โสภณ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ บรรยายให้ความรู้แก่เกษตรกรในจังหวัดเชียงราย ในเรื่องความสำคัญในการป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร และมาตรการ การดำเนินงานของกรมปศุสัตว์ในการเตรียมรับมือกับการแพร่ระบาดของโรค ร่วมกับการให้ความรู้จาก ผอ.ส่วนโรคปศุสัตว์ สคบ. โดยมีปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ และด่านกักกันสัตว์เชียงราย เข้าร่วมประชุม ณ อาคารเทิดพระเกียรติ 90 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ จังหวัดเชียงราย

เนื่องด้วยเชื้อมีความทนทาน ไม่มีวัคซีนในการป้องกัน ไม่สามารถรักษาตัวที่ป่วยได้ และหากมีตัวที่หายป่วย จะเป็นพาหะนำโรคไปตลอดชีวิต รองอธิบดี ได้เน้นย้ำความสำคัญของการทำระบบป้องกันโรคทางชีวภาพ ให้แก่เกษตร เพื่อไม่ใช้เชื้อเข้ามาในฟาร์ม อาทิ การไม่นำผลิตภัณฑ์สุกรเข้ามาบริโภคในฟาร์ม ไม่ใช้เศษอาหารเลี้ยงสุกร ทำความสะอาดอุปกรณ์ ยานพาหนะและฆ่าเชื้อให้ถูกวิธี และการแยกใช้อุปกรณ์ระหว่างภายนอกและภายในฟาร์ม รวมทั้งการเฝ้าระวังโรคทั้งภายในฟาร์ม และผู้เลี้ยงสุกรโดยรอบ

ทั้งนี้หากเกษตรกรมีความสงสัย หรือมีสุกรตายโดยไม่ทราบสาเหตุ มีไข้สูง นอนสุม ตายเฉียบพลันใน 2-3 วัน ขอให้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้ทุกช่องทาง และแอปพลิเคชั่น DLD 4.0 เพื่อให้มีการตรวจสอบ หามาตรการกำจัดโรค และชดเชยได้ตามหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ช่วงบ่าย เข้าตรวจเยี่ยมการดำเนินงานภายในสนามบินแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย ของด่านกักกันสัตว์เชียงราย ซึ่งมีเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยรองอธิบดีได้พูดคุยและขอความร่วมจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร ในเรื่องของการตรวจสอบสัมภาระของผู้โดยสารที่มาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อการป้องกันโรคที่อาจแพร่มาจากซากและชิ้นส่วนสุกรที่มาจากแหล่งของโรคระบาด อีกทั้งได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เน้นการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อให้เข้าใจถึงเหตุผลและความจำเป็นในการป้องกันโรคของประเทศไทย

โดยล่าสุดสถานะการณ์การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรที่ประเทศจีนถึงวันที่ 17 ตุลาคม 2561 มีการระบาดเพิ่มเติมที่เมืองพานจิน มณฑลเหลียวนิง นับเป็นรายที่ 40 จาก 25 เมือง 8 มณฑล 1 เขตปกครองพิเศษ นับตั้งแต่เริ่มมีการรายงานการระบาด วันที่ 3 สิงหาคม ถึง วันที่ 17 ตุลาคม 2561