กรมปศุสัตว์เห็นพ้องข้อเสนอสมาคมหมู หวังพาณิชย์ทบทวนนำ พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ช่วยชาวหมูด่วน!! ก่อนรายย่อยไม่มีอาชีพทำกิน
กรมปศุสัตว์เห็นพ้องข้อเสนอสมาคมหมู หวังพาณิชย์ทบทวนนำ พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ช่วยชาวหมูด่วน!! ก่อนรายย่อยไม่มีอาชีพทำกิน
26 กุมภาพันธ์ 2561 พญาไท - กรมปศุสัตว์เห็นพ้องข้อเสนอสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ หวังกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ทบทวนนำ พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ช่วยชาวหมูด่วน!! หลังจากที่กรมการค้าภายในตอบข้อเสนอไม่สามารถทำได้กรณีกำหนดราคาขั้นต่ำตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้ว
หลังจากปัญหาสภาวะหมูล้นตลาดและมีราคาตกต่ำ ผู้ที่เกี่ยวข้องต่างหาทางแก้ไข แต่ก็ยังไม่มีท่าทีที่สถานการณ์จะดีขึ้น โดยเฉพาะรายย่อยที่ยังไม่มีการรวมตัว จึงเกิดปัญหาได้ราคารับซื้อที่ต่ำกว่าราคาประกาศของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติมาก
โดยในที่ประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สุกร วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ที่กรมปศุสัตว์นางสาวบุญยัง สรวงท่าไม้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจปศุสัตว์ ได้กล่าวเห็นด้วยกับข้อเสนอของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ที่รับรายงานสถานการณ์และการแก้ปัญหาราคาตกต่ำโดยคุณสมพร กมลพรสิน ผู้จัดการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ โดยคุณสมพรได้แจ้งที่ประชุมเรื่องที่กรมการค้าภายในตอบปฏิเสธข้อเสนอที่ขอให้กระทรวงพาณิชย์ใช้อำนาจตาม พรบ ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาแก้ปัญหาการขาดทุนที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งคาดว่าจนถึงปัจจุบันตัวเลขความเสียหายทั้งระบบเกินกว่าหมื่นล้านไปแล้ว
นางสาวบุญยัง สรวงท่าไม้จะนำข้อเสนอนี้เข้า Pig Board เพื่อให้กระทรวงพาณิชย์ทบทวนข้อเสนอนี้อีกครั้ง ซึ่งน่าจะใช้เวลาพอสมควร
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นวาระเร่งด่วนที่จะต้องผลักดันและเข้าหารืออีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปในการประชุมพรุ่งนี้(27 กุมภาพันธ์) ที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ
เจตนารมณ์ของการปรับปรุงพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ซึ่งเดิมเป็นกฎหมายที่ว่าด้วยการกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด มีลักษณะสาระเป็นสองส่วนคือ การกำหนดราคาสินค้าและการป้องกันการผูกขาด ซึ่งทั้งสองส่วนมีวัตถุประสงค์ในการบังคับใช้กฎหมายแตกต่างกัน แต่มีองค์กรที่ทำหน้าที่ตามกฎหมายฉบับนี้เพียงองค์กรเดียว โดยอีกส่วนหนึ่งได้กลายเป็น พระราชบัญญัติว่าด้วยการแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 ซึ่งมีการแก้ไขล่าสุดปีที่ผ่านมาเป็น พระราชบัญญัติว่าด้วยการแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 สาเหตุของการแก้ไขเพราะมีอุปสรรคในการบังคับใช้
พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 สาระสำคัญจะอยู่ที่มาตรา 29 ดังนี้
“มาตรา ๒๙ ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจดําเนินการใดๆ โดยจงใจที่จะทําให้ราคาต่ำเกินสมควร หรือสูงเกินสมควร หรือทําให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการใด
คณะกรรมการอาจกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่ถือว่าเป็นการทําให้ราคาต่ำเกินสมควร หรือสูงเกินสมควร หรือทําให้ปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการใดก็ได้ หลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา”
โดยการใช้อำนาจของคณะกรรมการคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) จะบัญญัติไว้ที่มาตรา 24
“มาตรา ๒๔ เพื่อป้องกันการกําหนดราคาซื้อ ราคาจําหน่ายหรือการกําหนดเงื่อนไขและวิธีปฏิบัติทางการค้าอันไม่เป็นธรรม กกร. ด้วยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอํานาจประกาศกําหนดให้สินค้าหรือบริการใดเป็นสินค้าหรือบริการควบคุมได้
ให้ กกร. พิจารณาทบทวนการใช้อํานาจตามวรรคหนึ่งอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งหากเห็นว่าภาวะศรษฐกิจหรือข้อเท็จจริงที่อาศัยเป็นหลักในการพิจารณาใช้อํานาจของ กกร.เปลี่ยนแปลงไปหรือสิ้นสุดลง ให้ กกร.ด้วยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีประกาศเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการใช้อํานาจนั้นโดยไม่ชักช้า
ประกาศ กกร. ให้มีอายุตามที่กําหนด แต่จะกําหนดเกินหนึ่งปีไม่ได้เว้นแต่จะมีการออกประกาศใหม่
ประกาศ กกร. ตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้”
ความหวังกับการใช้อำนาจของคณะกรรมการคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) กระทรวงพาณิชย์ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กับข้อเท็จจริง 2 ตลาดอิงถือว่าเข้าข่ายตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัตินี้อย่างยิ่ง ซึ่งการจะมาโต้แย้งเรื่องบังคับใช้ได้หรือไม่ ในเวลานี้ก็จะเข้าข่าย “กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้” เดิมพันครั้งนี้มีเดิมพันด้วยการล้มหายตายจากของผู้เลี้ยงสุกรไทยโดยเฉพาะกลุ่มสายป่านสั้น ความหวังวิกฤตครั้งนี้อยู่ที่กระทรวงพาณิชย์จริงๆ
