PIG Supply Cut 31-07-2567

ฟาร์มครบวงจรร่วมเดินหน้าตัดวงจรอย่างเป็นทางการ หลังราคาพระล่าสุดปรับฐาน โดยขอให้ช่วยกันยกระดับราคา เพื่อให้โครงการประสบผลสำเร็จ

2 สิงหาคม 2567 การตัดวงจรการผลิตลูกสุกร เดินหน้าต่อเนื่องไปพร้อมกับระดับราคาสุกรที่ปรับฐานแข็งขึ้นจากพระที่ผ่านมา

นายนิพัฒน์ เนื้อนิ่ม อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดราชบุรี ที่เป็นผู้นำหลักของการผลักดันให้มีการส่งลูกสุกรเข้าโครงการ กล่าวว่า วันพระที่ผ่านมาราคาสุกรแต่ละภูมิภาคมีฐานราคาแข็งขึ้น โดยพื้นที่ภาคตะวันตกรายงานราคาที่ 72 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีที่อาจจะบรรลุเป้าหมายตามโครงการได้เร็วก่อนกำหนด

 

โดยตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2567 จนถึงปัจจุบัน กลุ่มฟาร์มที่สมัครเข้าร่วมโครงการมีการส่งลูกสุกร มีจำนวน 4,362 ตัว โดยรวมกับภาคสมัครใจรวมทั้งสิ้น 52,583 ตัว

สำหรับการประชุมคาดการณ์ต้นทุนการผลิตสุกรไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ของคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตสุกร ใน Pig Board จะประชุมกันในวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2567 ซึ่งต้นทุนการผลิตสุกรของไตรมาส 3 ที่มี 2 แบบ ที่ประกอบไปด้วย

1) แบบซื้อลูกสุกรเข้าขุน

2) แบบผลิตลูกสุกรเอง

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ จะนำแบบที่มีต้นทุนสูงที่สุดมาเป็นตัวตั้งต้น ในการนำมาเป็นเกณฑ์ให้ห้างค้าปลีก นำไปเป็นตัวตั้งต้นในการกำหนดราคาสุกรชิ้นส่วนเนื้อแดงที่ประกอบด้วยสะโพกและหัวไหล่ ที่มีการยื่นหนังสือกันไว้เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ซึ่งมีการตั้งเกณฑ์ไว้ที่ 1.8 เท่า ของราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการต่อรองจำนวนเท่ากลับมา โดยหลังจากได้ตัวเลขต้นทุนการผลิตสุกรไตรมาส 3 สมาคมฯ จะแจ้งต้นทุนดังกล่าวและกำหนดวันเริ่มต้นเพื่อขอความร่วมมือห้างค้าปลีก ร้านจำหน่ายเนื้อสุกร ให้เป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อให้ระบบมีความยั่งยืนลดการแข่งขันที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อราคาสุกรหน้าฟาร์ม

กรณีของต้นทุนการผลิตสุกร ในส่วนของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ยกระดับราคาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากประมาณ 10.50 บาทต่อกิโลกรัม ในช่วงเดือนมิถุนายน 2567 มาอยู่ในระดับสูงสุดประมาณ 12.35 บาทในสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนกรกฎาคม 2567 สมาคมผู้เลี้ยงสุกรเป็นหนึ่งในคณะกรรมการส่งเสริมพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ประเทศไทย ที่มีการประชุมล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 โดยล่าสุดภาคปศุสัตว์และผู้ผลิตอาหารสัตว์ให้ความร่วมมือที่จะซื้อข้าวโพดตามความชื้นไม่เกิน 14.5% จากเกษตรกร ที่ 9 บาทต่อกิโลกรัม  เห็นด้วยกับแผนการดำเนินงานส่งเสริมพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีฤดูกาลที่ 2567/2568 เพื่อหวังให้ประสิทธิภาพการผลิต หรือ ผลผลิตต่อไร่ของข้าวโพดในประเทศไทยดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสุกรในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะต่ำลงตามผลผลผลิตต่อไร่ที่สูงขึ้นของโครงการดังกล่าว

จากปัจจัยดังกล่าว และโครงการตัดวงจรการผลิตสุกรทำหมูหันปี 2567 ก็เพื่อสร้างเสถียรภาพของราคาให้กับสุกรขุนหน้าฟาร์ม โดยแผนที่เกี่ยวเนื่องไปถึงวัตถุดิบอาหารสัตว์ก็จะเป็นตัวหนึ่งที่สมาคมจะร่วมผลักดัน ให้มีการเพาะปลูกมากขึ้น ทั้งพื้นที่ และผลผลิตต่อไร่ต่อไป

 

Visitors: 470,950