PORK SHOP MEETING
ภาครัฐเตรียมไม้แข็งย้ำสัปดาห์นี้หมูยืน สัปดาห์หน้าต้องยกระดับราคา ใครเสียบ ใครเท ใช้กฎหมายจัดการ
23 กุมภาพันธ์ 2567 กรมปศุสัตว์ - อธิบดีเดินหน้าให้ผู้เลี้ยงรายย่อยอยู่ได้ ขีดเส้นผู้ค้าปลีกเนื้อสุกรกับพ่อค้าหยุดแข่งกดราคา เตรียมมาตรการตรวจสอบทุกรูปแบบ กับ จอมเสียบ จอมเท จอมป่วนราคา ทั้งมาตรการของกรม และด้านภาษี พร้อมเข้าตรวจแหล่งที่มา และตรวจฟาร์มต้นทางที่ไปกดราคาทำผู้เลี้ยงเสียหายอย่างหนัก
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นประธานเพื่อผลักดันราคาสุกร ซึ่งถือเป็นนัดสุดท้ายหลังความพยายามที่จะพยุงราคาสุกรในลักษณะการขอความร่วมมือ โดยการประชุมช่วงแรกทำหน้าที่ประธานการประชุมโดยนายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ โดยเป็นการประชุมทั้ง Online และ Onsite โดยมีผู้แทนจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ นายสัตวแพทย์เกียรติภูมิ พฤกษะวัน เลขาธิการสมาคม ร่วมให้รายละเอียดสถานการณ์การค้าในช่วงวันพระที่ผ่านมา
การให้รายละเอียดของผู้เข้าร่วมประชุมในกลุ่มของผู้ค้าปลีกที่เป็นลักษณะของร้านค้าเฉพาะหมู (Pork Shop) ยังคงเป็นไปในลักษณะการแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก ทั้งราคาหน้าร้านและราคาส่งกลุ่ม Food Service ซึ่งเป็นในลักษณะของการแข่งขันสูงมาก ที่สุดท้ายผลกระทบของการขาดทุนอย่างย่อยยับไปตกแก่ผู้เลี้ยงสุกรทั้งสิ้น ซึ่งเป็นลักษณะนี้มานานมาก ทั้งๆ ที่สุกรและเนื้อสุกร เป็นสินค้าควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ที่มีบทบัญญัติในประเด็นไม่ให้มีการกำหนดราคาซื้อ ราคาจำหน่าย และเงื่อนไขทางการค้าอันไม่เป็นธรรม แต่ความเสียหายที่เกิดตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เข้าข่ายลักษณะที่ต้องได้รับการดูแลตามบทบัญญัตินี้ทั้งหมด แต่ปราศจากการเข้ามากำกับดูแลจากหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายฉบับนี้
ซึ่งผู้ประกอบการ PORK SHOP เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 9 ราย ประกอบด้วย
- Happy Farm
- VPF
- หมูอินเตอร์ MSP Interfood
- หมูณัฐ
- P&J Meat product
- Farmesh บริษัท ฟาร์เมช จำกัด
- มงคล แอนด์ ซัน
- เบทาโกรช็อป
- ไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต
โดยเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 ได้มีการประชุมกลุ่มห้างค้าส่ง ค้าปลีกไปก่อนหน้านั้น มีข้อสรุปขอห้าง ให้ความร่วมมือตรึงราคาจำหน่ายปลีก ในส่วนของสะโพกและหัวไหล่ที่ 118 บาทต่อกิโลกรัม แต่ได้รับข้อมูลว่ากลุ่ม Pork Shop ขายต่ำกว่าที่ 105 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้กลุ่มค้าส่งค้าปลีกปรับลดราคาตาม กรมปศุสัตว์และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติจึงได้เชิญกลุ่ม Pork Shop เข้ามาร่วมหารือเพื่อให้มีการขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร โดยเฉพาะรายย่อยเดือดร้อนมากไปกว่านี้
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การค้าในกลุ่มของผู้จำหน่ายปลีกเนื้อสุกร มีการแข่งขันสูงมาก ซึ่งไม่เป็นผลดีและไม่มีการตระหนักถึงต้นทางที่เป็นฟาร์มสุกรที่ต้องจำหน่ายในราคาที่ขาดทุนอย่างต่อเนื่องมายาวนาน ทำให้ภาครัฐจำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย โดยจะขอความร่วมมือในพระนี้เป็นครั้งสุดท้าย โดยจะให้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ยืนราคาคละขนาดรถใหญ่ที่ 66 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาจำหน่ายปลีกเนื้อสุกรส่วนหลักที่เป็นสะโพกและหัวไหล่ให้ยืนราคาที่ 118 บาทต่อกิโลกรัม
ที่ประชุมขอให้มีการทะยอยขยับราคาจำหน่ายปลีกในวันพระต่อๆ ไป มาสู่ ณ จุดที่สะท้อนต้นทุนของการผลิตสุกร ซึ่งจะได้เป้าหมายราคาจำหน่ายปลีกเนื้อสุกรส่วนเนื้อแดงอยู่ในช่วงที่ 150-155 บาทต่อกิโลกรัม
อธิบดีกรมปศุสัตว์แจ้งที่ประชุม สำหรับมาตรการหลังจากสัปดาห์นี้ ถ้ายังคงมีการแข่งขันกันอย่างไม่สนใจผู้อยู่ในอาชีพหรือห่วงโซ่ของการผลิตสุกร กรมปศุสัตว์จะทำการเข้าตรวจสอบร้านที่ไม่ให้ความร่วมมือ โดยจะมีการไปตรวจแหล่งที่มาของเนื้อสุกร การขายหน้าร้าน และการขายจำนวนมากกับกลุ่ม Food Service จนถึงฟาร์มต้นทางที่นำมาจำหน่าย
ตลอดระยะเวลาที่การแข่งขันแบบใช้ราคานำ สร้างปัญหาให้ราคาสุกรหน้าฟาร์มลดลงเป็นอย่างมากในกลุ่มของร้าน Pork Shop ทั้งหลายมักจะอ้างในเรื่องของการโปรโมชั่น ซึ่งประเด็นดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนและสร้างความเสียหายและเพิ่มความแรงของการแข่งขัน ซึ่งจำเป็นต้องหยุดในกรณีของการอ้างโปรโมชั่นกันไว้ก่อน
โดยตอนท้ายอธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้ให้ข้อคิดในแง่ของผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย เราต้องดูแล ถ้าไม่มีรายย่อย ต่อไปเหลือแต่รายใหญ่จะมีการคุมเข้มอย่างหนัก ทั้งคุณภาพ มาตรฐาน อย่าแข่งขันกันเจ๊งให้จนรายย่อยอยู่ไม่ได้ กรมปศุสัตว์จะใช้มาตรการทางกฎหมาย ทั้งของกรมเอง และของหน่วยงานอื่นๆ เช่น ด้านภาษี ดำเนินการเกี่ยวกับกลุ่มที่ชอบแข่งขันจนตลาดปั่นป่วน โดยวันพระที่จะถึงนี้ คือ วันพระที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติจะรายงานราคากลาง เป็นราคาคละขนาดไว้ที่ 66 บาทต่อกิโลกรัม โดยแต่ละพื้นที่จะใช้ราคานี้เป็นฐานในการบวกเพิ่ม ตามความเหมาะสมทั้งคุณภาพซากและระยะทางของแต่ละพื้นที่ โดยจะมีการยกระดับราคาทั้งราคาสุกรหน้าฟาร์ม และราคาจำหน่ายปลีกเนื้อสุกรทั้งระบบ โดยมีเป้าหมายราคาจำหน่ายปลีกเนื้อสุกรส่วนเนื้อแดงอยู่ในช่วงที่ 150-155 บาทต่อกิโลกรัม