สมาร์ทฟาร์ม ฟาร์มหมูแห่งอนาคต

สมาร์ทฟาร์ม ฟาร์มหมูแห่งอนาคต
by Vetmore

17 พฤศจิกายน 2563 ถ้า Covid-19 เป็นตัวกระตุ้นให้เทคโนโลยีสำหรับคนถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนไปหลายด้านแล้ว ASF ก็คงจะเป็นตัวกระตุ้นให้ทุกฟาร์มต้องผลักดัน Biosecurity รวมถึงเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของฟาร์มเช่นกัน

                ปัจจุบันเทคโนโลยีที่เอามาใช้กับฟาร์มหมูจนเป็นเรื่องปกติ คือ ระบบ EVAP เพราะตอบโจทย์การเลี้ยงระดับอุตสาหกรรมในการควบคุมอากาศภายในโรงเรือนให้เหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพการโตของหมูที่ดีขึ้น ลดการสูญเสีย

แล้วอย่างนี้ในอนาคตฟาร์มหมูจะพัฒนาไปในรูปแบบใดได้บ้าง

                หากเราติดกล้องถ่ายภาพความร้อนเข้ากับโรงเรือน เราจะได้ระบบการเลี้ยงที่มีกล้องตรวจจับหมูที่กำลังป่วย จากการวัดอุณหภูมิที่ผิวหนัง และส่งสัญญาณเตือนมาที่ออฟฟิศได้เพื่อแก้ไขก่อนที่จะแพร่เชื้อ

                หากเราติดตั้งกล้องร่วมกับปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เราจะได้ระบบที่ประเมินน้ำหนักหมูได้ทุกวัน โดยที่ไม่จำเป็นต้องนำหมูออกมาชั่ง ที่ทำให้หมูเครียดและเสี่ยงติดโรค

                หากเราติดตั้งไมโครโฟนร่วมกับการประมวลผลเราจะได้ระบบวิเคราะห์เสียงที่ระบุได้ว่า หมูร้องป่วยหรือกัดกัน วิเคราะห์สุขภาพและความเครียดได้ หรือแม้แต่ระบุโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ

                หากเราติดตั้งระบบตรวจวัดไฟฟ้า เราจะเห็นลักษณะการใช้งานไฟฟ้าในฟาร์ม จากโรงผสมอาหาร ปั๊มน้ำ พัดลม เราจะวางแผนการใช้งานอุปกรณ์ในฟาร์ม เพื่อลด Peak หรือ จุดสูงสุดของการใช้ไฟ เพื่อประหยัดค่าไฟได้อีกและทุกอย่างนี้เรารู้ได้ผ่านสมาร์ทโฟนของเรา ได้ทุกที่ทุกเวลา

                เรื่องนี้อาจดูใหม่ในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ไทย แต่เป็นเรื่องที่ถูกนำมาใช้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องในต่างประเทศ และแน่นอนว่าสำหรับคนเราใช้เทคโนโลยีเหล่านี้จนอยู่ในชีวิตประจำวันไปแล้ว อย่างเช่น สมาร์ทโฮมในปัจจุบัน หรือห้างระดับชั้นนำจะมีการใช้ระบบจดจำใบหน้า วัดอุณหภูมิ เวลาเราเดินผ่าน เป็นเรื่องปกติ

                เรื่องเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นกับฟาร์มในอนาคต เพื่อตอบรับกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน ความต้องการประสิทธิภาพที่ดีที่สุด และตอบโจทย์ด้านความคุ้มทุน 

ตัวอย่างฟาร์มสุกร AI ในประเทศจีน

เรียบเรียงเสริมโดย ฝ่ายวิชาการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ

AI เพื่อประหยัด 50,000 ล้านหยวนต่อปีในฟาร์มหมูทั้งประเทศ

 

                การใช้งานของ AI จะไม่จำกัดเพียงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงและรูปแบบล้ำหน้าระดับสูงในเมืองเท่านั้น ปีนี้เราได้สังเกตเห็นแนวคิดการปฏิวัติใหม่ๆ จากสถานที่ที่เราคาดหวังอย่างน้อยอ้างถึงฟาร์มหมูของเราที่สามารถนำ AI มาใช้งานได้

                บริษัท JD Agriculture and Animal Farming  บริษัท ย่อยของJD.com และ กลุ่มเฉิงตูหยวนเปาเฟิง (Chengdu Yuanbaofeng Agricultural Development Group) ลงนามสัญญาความร่วมมือสำหรับการเกษตรสมัยใหม่และโครงการเกษตรดิจิตอลที่มีมูลค่ารวม 206 ล้านหยวน โดย JD.com จะดำเนินการผลักดันให้เฉิงตูหยวนเปาเฟิงได้รับบริการเต็มรูปแบบของการแก้ปัญหาทางเทคนิค ใช้โซลูชั่นการเกษตรอัจฉริยะของ Shennong Brain ใช้ระบบอินเตอร์เน็ตครบวงจรและระบบที่ต่อเนื่องของ Shennong เพื่อช่วยให้เฉิงตูหยวนเปาเฟิง ใช้ระบบโดยตรงกับกลุ่มการเพาะพันธุ์อัจฉริยะ พร้อมทั้งปรับปรุงระดับของการจัดการด้านดิจิตอลตลอดห่วงโซ่ ที่มีเป้าหมายการประหยัดต้นทุนการทำฟาร์มสุกรทั้งระบบของประเทศจีน จำนวน 50,000 ล้านหยวนต่อปี

 

                นี่เป็นเหตุการณ์สำคัญครั้งแรกในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตหลังจากเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการของ "JD Finance" เป็น “JD Digital Technology” อย่างไรก็ตาม ให้ติดตามกลุ่ม NetEase และอาลีบาบา ด้วย  ระบบในฟาร์มหมูได้กลายเป็นที่ปรารถนาของบรรดาบริษัทอินเทอร์เน็ต ทำไมระบบฟาร์มสุกรมักได้รับการวางแนวทางรับการรองรับจากระบบอินเทอร์เน็ต พิจารณาตามปรากฏการณ์ และ สาระสำคัญ ทำให้เราตรวจสอบกลับอีกครั้งกับการจัดการด้านพันธุ์สุกรจากมุมมองของการวัดผลองค์กรที่เริ่มใช้ไปก่อนหน้านี้ในกลุ่มฟาร์มสุกรพันธุ์  

                ตามการทดแทนการปฏิบัติการจริงๆ ของฟาร์มในโครงการของ JD วางแผนที่จะดำเนินการ "ทดลองหมู AI" ในรูปแบบของความร่วมมือกับผู้ประกอบการปศุสัตว์และสถาบันต่างๆ โดยหวังที่จะให้หนทางที่สนับสนุนสำหรับอุตสาหกรรมฟาร์มอย่างเบ็ดเสร็จ และใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนประสิทธิภาพการผลิต

                ผู้นำทางเทคนิคของ Jingdong "AI Pig" ได้กล่าวถึงการแก้ปัญหา คือ การติดตั้งอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงเพื่อรายงานสัตว์แพทย์ ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการผสมพันธุ์ของสุกรมีชีวิต ที่ช่วยให้ระบบของหุ่นยนต์ตรวจสอบการจัดการฟาร์มเพื่อทดแทนแรงงานที่ไม่มีประสิทธิภาพและทดแทนแรงงานคนตามประเภทงานที่สามารถทดแทนได้ ซึ่งหมายความว่าการติดตามตลอด 24 ชั่วโมงใน 7 วันเป็นการตรวจสอบสภาพของสุกรอย่างต่อเนื่องโดยใช้ชุดเทคโนโลยีใหม่

                โฆษกของ JD กล่าวว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะถูกใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของฝูงสุกรได้อย่างถูกต้อง ตรวจจับพฤติกรรมของหมูแต่ละตัว รูปร่าง และวิถีของการเจริญเติบโต ข้อมูลจะถูกเก็บรวบรวมเกี่ยวกับเป็นเสียงบันทึกของหมู ช่วงของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของร่างกายการเปลี่ยนแปลงต่างๆ จากระบบการให้อาหารและระบบภูมิคุ้มกัน  เป้าหมายคือการระบุเป็นคำเตือนเบื้องต้นของโรคที่สามารถแพร่กระจายจากหมูตัวหนึ่งไปยังฝูงทั้งหมด ที่ยังคงเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดที่จะมีผลกระทบกับผลผลิต วิธีนี้มาตรการที่สำคัญ เช่น การฆ่าเชื้อในฟาร์ม ฆ่าเชื้อของพนักงานและยานพาหนะสามารถดำเนินการได้ในเวลาเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในการแก้ไขปัญหา 

                "เมื่อเทียบกับการตรวจสอบด้วยตนเอง กับ การใช้ระบบหุ่นยนต์ตรวจสอบพันธุ์เป็นค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมากที่นอกเหนือไปจากการมีคุณสมบัติที่ต้นทุนต่ำแต่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งมีประสิทธิภาพการควบคุมการแพร่กระจายของโรคต่างๆและลดผลกระทบของการเฝ้าระวังในองค์กรได้อย่างแท้จริง เข้าสู่ยุคของฟาร์มหมู "ไร้คนงาน" หรือฟาร์มหมูเลี้ยงด้วยหุ่นยนต์

                มันเกือบจะมั่นใจว่าคุณสามารถใช้ AI เพื่อทุกสิ่งเพื่อปรับปรุงการเป็นข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ไม่มีข้อยกเว้นแม้มีโรงเรือนขนาดใหญ่ก็ตาม สำหรับจินตนาการและนวัตกรรม ความหมายของโครงการที่ผู้บุกเบิกนี้ไปไกลเกินกว่าการเลี้ยงหมู เพราะเป็นคำถามสำหรับทุกอุตสาหกรรมเพื่อประเมินวิธีที่ใช้อยู่ในปัจจุบันของการทำธุรกิจ หากอุตสาหกรรมเป็นสภาพที่มีข้อมูลมาก AI สามารถผลักดันการตัดสินใจที่ดีที่สุดในธุรกิจได้ หากอุตสาหกรรมยังไม่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจำนวนมาก (เช่นการทำฟาร์มหมู) มีโอกาสที่จะกระโดดจากรุ่น 1.0 ถึง 3.0 เช่นที่เกิดขึ้นแล้วกับประเทศกำลังพัฒนาในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการข้ามยุคสายโทรศัพท์ผ่านแลนด์ และการเดินหน้าสู่ระบบโมบายอินเทอร์เน็ตในยุคศตวรรษ 2000

 

ที่มา : https://chinapotion.medium.com/rmb200million-contract-on-ai-based-pig-farming-3d4f60ff4dc9

Visitors: 397,127