เจ๊จง BETAGRO กับ Synergy Model กลยุทธ์สร้าง Long term customer

เจ๊จง BETAGRO กับ Synergy Model กลยุทธ์สร้าง Long term customer    

(หมูจะอยู่อย่างไร? ในยุคโลกป่วน ตอนที่ 2)

          หลังจากตอนแรกที่อาจารย์ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ยกรูปแบบ ของวีพีเอฟ ฟาร์ม หรือ บริษัท วีพีเอฟ กรุ๊ป (1973) จำกัด เป็นต้นแบบที่เริ่มจากสิงห์ภูธร ด้วย Localization สู่ Globalization จากท้องถิ่นสู่ระดับนานาชาติ ซึ่งมีการยกตัวอย่างโกลบอลเฮ้าส์ เริ่มจากร้อยเอ็ด และขยายตัวไปยังภูมิภาคอื่นๆ กับ ตัวอย่างร้านสะดวกซื้อภูธรสิงห์ตะวันตกอย่าง CJ เดิมซีเจมีฐานที่มั่นอยู่ในย่าน ราชบุรี กาญจนบุรี และนครปฐม ที่ผ่านมามีการขยายเข้าไปในจังหวัดต่าง ๆ มากขึ้น รวมทั้งกรุงเทพฯและจังหวัดปริมณฑล ในพื้นที่ที่เป็นทำเลรอง หรือถนนรอง

          ตอนที่ 2 พูดถึง “เจ๊จงเบทาโกรโมเดล” มาเป็นแนวทางการทำธุรกิจในลักษณะ Synergy ที่ต่างฝ่ายใช้จุดเด่นของกันและกันมาผสมผสานที่ทำให้ 1+1 มากกว่า 2 โดย

เจ๊จงได้อะไรบ้าง กับ เบทาโกร

1)      ภาพอาหารปลอดภัย ของเบทาโกร ทำให้พันธมิตรทางการค้าได้ภาพความปลอดภัยไปด้วย ยิ่งเพิ่มความมั่นใจต่อผู้บริโภค จะทำให้กลุ่มลูกค้าขยายวงมากขึ้นโดยไม่กระทบกับรสชาติอร่อยและถูกของร้านหมูทอดเจ๊จงลงไปแต่อย่างใด

2)      คู่ค้าของเบทาโกรเสมือนได้ครัวกลางมาสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ ทำให้การเดินหน้าขยายสาขาสะดวกมากขึ้น โดยปัจจุบันร้านหมูทอดเจ๊จงมีทั้งหมด 9 สาขา กับวัตถุดิบหมูสำหรับทอดที่หมักมาเรียบร้อยจากโรงงานเบทาโกรที่เข้ามาตรฐาน Foods Grade ทำให้แต่ละสาขาของร้านหมูทอดเจ๊จงลดขั้นตอนการจัดหาและเตรียมส่วนผสมสำหรับหมูทอดลงไป โดยมีภาพอาหารปลอดภัยถูกสุขอนามัยของเบทาโกรมาเพิ่มเติม โดยเบทาโกรมีทีมงานที่ทำการจับคู่ลักษณะ Synergyมาในทุกภูมิภาค กับร้าน Betagro Shop ที่กระจายและจับลูกค้าส่ง ลูกค้าปลีกได้เป็นอย่างดี

3)      ได้มากกว่าการเป็นคู่ค้า ยังได้คู่คิด เพราะเบทาโกรมีการตั้งศูนย์นวัตกรรมอาหารเครือเบทาโกร (Betagro Food Innovation Center) เพื่อรองรับเทรนด์อาหารในอนาคต ทำหน้าที่

(1)    พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร บรรจุภัณฑ์

(2)    พัฒนาองค์ความรู้ด้านอาหาร หรือ Food Solution

(3)    พัฒนาด้านเทคนิค และงานกฎหมายอาหาร

เจ๊จงหมูทอด เป็นหนึ่งใน 60,000 พันธมิตร ที่เบทาโกรเชื่อมโยงจากผู้ประกอบการร้านอาหารรายเล็ก รายกลาง และรายย่อยทั่วประเทศราว 400,000 ราย โดยเป็นทั้งห่วงโซ่เนื้อหมูสด และหมูปรุงรส เสมือนเป็นครัวกลาง หรือครัวเตรียมอาหารเร็วขึ้น คุณภาพดีขึ้น คงรสชาติ และราคาฉบับเจ๊จงดั้งเดิม โดยเบทาโกรยังมีทีมFIC ศูนย์นวัตกรรมอาหารเครือเบทาโกร  (Betagro Food Innovation Center) เพื่อการพัฒนาต่อเนื่อง

นางจงใจ กิจแสวง  เจ้าของกิจการหมูทอดเจ๊จง  เปิดเผยว่า ที่มาของธุรกิจเกิดจากการที่เจ๊เป็นหนี้ ขณะนั้นขายอาหารตามสั่ง ขายบุฟเฟ่ต์ แต่ยังไม่พอใช้หนี้ ด้วยความบังเอิญที่ไปเห็นข้าวหมูทอด จึงเกิดไอเดียทำหมูทอด ถึงวันนี้ก็ 15 ปีแล้ว แต่ความสำเร็จในวันนี้จะไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะเชื่อว่า ยังสามารถทำได้ดีกว่า  จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่างเจ๊จง และเบทาโกร ด้วยความตั้งใจของเราทั้งสองฝ่ายที่อยากให้ผู้คนทั่วไปได้รับประทานอาหารที่ดี อร่อย ที่สำคัญมีคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึง จากเดิมที่เจ๊ใช้หมูเขียงที่ซื้อจากตลาดสดเพราะต้องการขายอาหารให้ผู้บริโภคได้ในราคาถูก แต่เราเจอปัญหาว่าไม่สามารถรักษาคุณภาพหมูให้คงที่ได้ทุกวัน จึงเข้ามาศึกษากรรมวิธีต่างๆ ร่วมกับเบทาโกรเพื่อยกระดับคุณภาพวัตถุดิบให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน ประหยัดเวลา รสชาติดีสม่ำเสมอ แต่ยังสามารถขายอาหารได้ในราคาเท่าเดิม

          “ทุกวันนี้ ชีวิตเจ๊เปลี่ยนไป ไม่ต้องตื่นตีสามแล้ว คุณภาพชีวิตเจ๊ดี คุณภาพหมูเจ๊ก็ดี เจ๊เป็นตัวกลางในการส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพให้ผู้บริโภค ลูกค้าเจ๊สบายใจว่าได้ทานของดี เจ๊สบายใจและมีความสุขยิ่งกว่าค่ะ”

          นี่เป็นหนึ่งตัวอย่างเพื่อการปรับตัวของ “หมูจะอยู่อย่างไร? ในยุคโลกป่วน” ซึ่งยังมีกิจการ SME ที่รอขึ้นแท่นที่จะเป็นพันธมิตรในลักษณะ Synergy Model อีกเป็นจำนวนมากทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ทั้งกิจการร้านอาหาร อาหารแปรรูป หรือแม้แต่การคิดค้นเมนูอาหารจากสุกรอีกมากมายเช่น ร้านหมูย่างหมูกะทะ ต้มแซ่บเล้ง ที่สร้างมูลค่าให้ส่วนสามชั้นและกระดูกสันหลังหมู(เอียเล้ง) ให้ราคาของการ Balance Part กับการค้าเนื้อสุกรและชิ้นส่วนได้ดีขึ้น

ที่มา : สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ

Visitors: 397,167