แมคโคร โลตัส บิ๊กซี ยินดีปรับราคาจำหน่ายปลีกเนื้อหมูให้สอดคล้องราคาหมูขุน ก่อนเชิญสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ผู้ค้าส่ง พ่อค้าหน้าฟาร์ม ตัวแทนผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศร่วมประชุมครั้งหน้าปลายเดือนนี้เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนทุกฝ่าย

แมคโคร โลตัส บิ๊กซี ยินดีปรับราคาจำหน่ายปลีกเนื้อหมูให้สอดคล้องราคาหมูขุน ก่อนเชิญสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ผู้ค้าส่ง พ่อค้าหน้าฟาร์ม ตัวแทนผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศร่วมประชุมครั้งหน้าปลายเดือนนี้เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนทุกฝ่าย

16 พฤษภาคม 2561 กรมปศุสัตว์ – กรมปศุสัตว์เรียกเรียก 3 ห้างค้าปลีกจับเข่าคุยกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรหลังการตั้งราคาโรลแบ็คของเทสโก้โลตัสกระทบราคาสุกรขุน หลังก่อนหน้านี้กรมการค้าภายในเตือนห้ามนำสินค้าเกษตรมาดั๊มพ์ราคา สุดท้ายตัวแทน 3 ห้างค้าปลีกยินดีปฏิบัติตาม โดยแนะนำให้เรียกประชุมผ่านสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กับสมาชิกทั้งหมดเพื่อให้เข้าใจสภาพผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรซึ่งเป็นต้นน้ำของผลิตภัณฑ์เนื้อสุกร

การประชุมวันนี้ระหว่าง 3 ห้างค้าปลีกกับกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดราชบุรี สหกรณ์การเกษตรปศุสัตว์ราชบุรี จำกัด และสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรนครปฐม โดยมีนายสัตวแพทย์จีระศักดิ์ พิพัฒนพงศ์โสภณ รองอธิบดี เป็นประธานการประชุม โดยเริ่มจากตัวแทนจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกล่าวถึงสภาพโดยรวมของปัญหาที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรว่า เนื่องจากมีการตั้งราคาจำหน่ายปลีกเนื้อสุกรไม่สอดคล้องราคาสุกรขุนในช่วงเวลาเดียวกัน จากการตั้งราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดอย่างมาก ทำให้กลายเป็นราคาอ้างอิงกดราคาสุกรขุนหน้าฟาร์ม ซึ่งขัดกับ พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ที่ 1/2561 ให้สินค้าสุกรและเนื้อสุกรเป็นสินค้าควบคุม

รายละเอียดปัญหาที่เกิดขึ้น

       1.เนื่องจากราคาสุกรขุนตั้งแต่ต้นไตรมาสที่ 3 ปี 2560 ลดลงจนประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่องจนต่ำสุดที่ 36 บาทต่อกิโลกรัมในพื้นที่ตะวันตกช่วงเดือนธันวาคม โดยเป็นราคาซื้อขายสุกรขุนจริงช่วง 8 เดือนก่อนมีนาคม 2561 เฉลี่ยในระดับ 38-50 บาทต่อกิโลกรัมทั้งประเทศ โดยราคาเนื้อสุกรที่สำรวจจากห้างค้าปลีกจะอยู่ในระดับ 87-105 บาทต่อกิโลกรัม(โดยประมาณ)

       2.ช่วงตั้งแต่พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นมาสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้ร่วมกับภาครัฐหาทางแก้ไขปัญหาราคาสุกรตกต่ำมาตลอดในหลายวิธีเพื่อให้สถานการณ์ด้านราคาให้ดีขึ้น จวบจนช่วงมีนาคม 2561 สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้ประเมิน Supply ของตลาดลดลงจากการลดแม่พันธุ์ตามกลไกตลาด และเลิกอาชีพการเลี้ยงสุกรไปประมาณ 20% จากจำนวนผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศจากปัญหาการขาดทุน ทำให้มีการปรับราคาสุกรขุนต่อเนื่องเพื่อให้เกษตรกรขายให้ได้สูงกว่าราคาต้นทุนที่ 63.78 บาทต่อกิโลกรัมตามการประเมินของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรไตรมาส 1 ปี 2561

      3. ปกติโครงสร้างราคาสุกรเนื้อแดง(สะโพก หัวไหล่) การตั้งราคาจำหน่ายปลีกจะประมาณ 2 เท่าของราคาสุกรขุน โดย ณ ราคาอิงตามประกาศสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ 63 บาท ราคาเนื้อสุกรควรอยู่ที่ 126 บาท โดยราคาประกาศของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ วันที่ 15 พฤษภาคม 2561 อยู่ที่ 120-125 บาทต่อกิโลกรัม

      4. หลังจากราคาสุกรขุนไต่ระดับมาจนถึงระดับต้นทุน 63 บาท มีแรงต้านราคาสุกรขุนหน้าฟาร์มที่ไม่เป็นไปตามกลไกของตลาด  สาเหตุหนึ่งมาจากการตั้งราคาจูงใจของห้างค้าปลีกที่ต่ำมาก ไม่สอดคล้องราคาสุกรขุนและราคาจำหน่ายปลีกเนื้อสุกรของกรมการค้าภายใน เช่น ราคาปลีกที่กิโลกรัมละ 102 บาท(ตามภาพเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2561 ซึ่งราคาลักษณะนี้จะมีทุกวันในห้างค้าปลีกแห่งหนึ่ง) เมื่อคำนวณย้อนกลับ กลับกลายเป็นการสร้างราคาอ้างอิงราคาสุกรขุนที่ 50-51 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้เกษตรกรถูกกดราคาหน้าฟาร์มโดยเฉพาะฟาร์มขนาดเล็ก

       5.เนื่องจากสินค้าสุกรและเนื้อสุกร เป็นสินค้าควบคุมตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ที่ 1/2561 การกำหนดราคาซื้อราคาขายที่ก่อให้เกิดความเสียหายถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ระวางบทลงโทษไว้ที่ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

       6.เพื่อช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทุกขนาดอยู่ได้ โดยเฉพาะขนาดกลางถึงรายย่อย สามารถอยู่ในอาชีพได้ เพราะปัจจุบันเครือข่ายห้างค้าปลีกมีจำนวนสูงขึ้นใกล้ 50% ของตลาดทั้งหมด ทำให้ราคาจำหน่ายปลีกของห้างค้าปลีก กลายเป็นราคาอ้างอิงให้พ่อค้าคนกลางนำไปกดดันราคาสุกรขุนหน้าฟาร์มในวงกว้าง เนื่องจากสุกรเป็นสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนไหวเมื่อมีสภาพการกดราคา จะเกิดความตระหนก

ความประสงค์ในการร่วมหารือในครั้งนี้ด้วยเหตุที่สุกรและเนื้อสุกร เป็นสินค้าควบคุมและเป็นสินค้าอ่อนไหว เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเกษตรกรในวงกว้าง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเรื่องมิให้ห้างค้าปลีกนำสินค้าเนื้อสุกร ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรมาทำโปรโมชั่นโดยการตั้งราคาจูงใจ

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติจึงขอให้ห้างค้าปลีกระงับการนำสินค้าเนื้อสุกรมาตั้งราคาจูงใจลูกค้าในลักษณะดั๊มพ์ราคาอีก

ตัวแทนจาก 3 ห้างค้าปลีกโดยคุณธนวรรษ บุญโต ผู้จัดการฝ่ายรัฐสัมพันธ์ Tesco Lotus ชี้แจงที่ประชุมหลังเข้าใจสภาพปัญหาที่เกิดว่าห้างค้าปลีกต้องรักษาผู้เลี้ยงไว้ เพราะถ้าไม่มีพวกท่าน ห้างก็ไม่มีเนื้อหมูขาย แต่จะระงับโปรโมชั่นทันทีไม่ได้เพราะห้างต้องปฏิบัติตามกฎหมายอื่นด้วย เช่น กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค บางรายการมีโฆษณาไปแล้ว การระงับจะไปขัดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค และเนื่องจากยังมีห้างค้าปลีกอีกหลายแห่งที่ไม่ได้ถูกเรียกมาในวันนี้ ซึ่งทุกห้างจะเป็นสมาชิกของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เช่น TOP The Mall Group Max Value ซึ่งถ้าจำเป็นต้องห้ามมิให้นำเนื้อสุกรมาจัดโปรโมชั่น จะต้องดำเนินการพร้อมกัน ซึ่งการประชุมครั้งต่อไปแนะนำให้เชิญ ผู้ค้าส่งให้กับห้าง พ่อค้าที่ซื้อสุกรหน้าฟาร์ม และตัวแทนจากฟาร์มทั่วประเทศมาร่วมประชุมเพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งระบบ โดยไม่มีการเอารัดเอาเปรียบกัน

คุณสมคิด เรืองวิไลทรัพย์ ประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรนครปฐมให้ข้อมูลกับที่ประชุมว่าต้นทุนสุกรต่อกิโลกรัมที่คำนวณโดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรไตรมาส 1 ปีนี้อยู่ที่ 63.78 บาท การตั้งราคาของห้างโลตัส 105 บาทต่อกิโลกรัมในวันนี้เท่ากับต้องไปซื้อสุกรหน้าฟาร์มที่ 52 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ขาดทุนมาก เกษตรกรมีมากมีโอกาสที่จำเป็นต้องขายเพราะการขาดสภาพคล่องจากการขาดทุนมานานมาก

ในขณะที่คุณสุวดี ธีรสัตยกุล ตัวแทนผู้เลี้ยงสุกรจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดราชบุรีได้กล่าวว่าช่วงนี้พ่อค้าจะนำราคาห้างมาอ้างตลอด ทำให้เราจึงต้องมาทำความเข้าใจกับห้างให้เข้าใจสภาพความเป็นจริงเพื่อหาทางแก้ปัญหาเพื่อรักษาผู้เลี้ยงสุกรทุกขนาดไว้

ก่อนจบการประชุมรองอธิบดีจีระศักดิ์ พิพัฒนพงศ์โสภณ ย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกห้างจะต้องมารับทราบและดำเนินการให้สอดคล้องกัน แต่ท่านมีภารกิจต้องไปประชุม OIE 20-25 พฤษภาคม นี้ที่ฝรั่งเศส จึงต้องกำหนดประชุมหลังการเดินทางกลับ ซึ่งฝ่ายเลขาได้กำหนดกับตัวแทนสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเบื้องต้นเป็นวันพุธที่ 30 พฤษภาคมนี้ โดยจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้กล่าวจากข้างต้นมาร่วมหาทางแก้ไขอย่างด่วนที่สุด โดยจะส่งหนังสือด่วนถึงสมาคมผู้ค้าปลีกไทยให้เร่งให้สมาชิกดำเนินการดูแลการตั้งราคาจำหน่ายปลีกให้สอดคล้องกับราคาของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ก่อนเดินทางร่วมประชุม OIE ที่ฝรั่งเศส 

 

Visitors: 397,110