โอกาสทองของผู้เลี้ยงสุกรจีนหลังราคากระฉูด กำไรทะยานตัวละ 1,000 หยวน หรือ 5,400 บาท

โอกาสทองของผู้เลี้ยงสุกรจีนหลังราคากระฉูด กำไรทะยานตัวละ 1,000 หยวน หรือ 5,400 บาท

29 มีนาคม 2559 ประเทศจีน – ราคาหมูมีชีวิตในจีนทะยานสูงขึ้นหลังปริมาณหมูไม่เพียงพอ ทำให้ราคาในประเทศขยับขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง

ราคาปัจจุบันสำหรับหมูมีชีวิตในประเทศจีนทะยานสูงขึ้นเฉลี่ย 10.4 RMB/Mao หรือ 20.8 หยวนต่อกิโลกรัม (Mao เท่ากับ 0.5 กิโลกรัม) หรือ 112 บาทต่อกิโลกรัม หลังปริมาณหมูไม่เพียงพอ ทำให้ราคาในประเทศขยับขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดว่าจีนจะผลิตหมูได้ทั้งปี 610 ล้านตัว จากปี 2540 ที่ผลิตได้เพียง 400 ล้านตัว แสดงถึงความต้องการบริโภคเนื้อสุกรที่มากขึ้น

ราคาสุกรในประเทศจีนก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน เคยอ่อนตัวลงไปถึง 65-75 บาทต่อกิโลกรัม โดนสาเหตุหลักในการปรับตัวขึ้นในครั้งนี้มาจากการลดขนาดของการผลิตโดยรวมจากการปลดแม่พันธุ์จาก 45 ล้านตัวเหลือเพียง 37 ล้านตัวในปัจจุบัน โดยลดลงถึง 20%

อีกสาเหตุหนึ่งของการลดลงเนื่องจากระดับราคาที่ลดลงมานานทำให้เกษตรผู้เลี้ยงสุกรในจีนหมดเงินทุนที่จะประกอบการต่อไป ประกอบกับมีปัญหาแรงบีบจากเรื่องมลภาวะที่กระทบแหล่งน้ำ ทำให้ฟาร์มจำนวนหนึ่งเลิกกิจการไป รวมทั้งมีประเด็นเรื่องการดื้อยาในคน ซึ่งก็พอสรุปได้ว่า “หมดหน้าตัก ทำฟาร์มยากขึ้น” เป็นเหตุผลให้เกิดภาวะหดตัวของวงการ

ผศ.น.สพ.คัมภีร์ กอธีระกุล ผู้เชี่ยวชาญวงการสุกรจีน สรุป 3 ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาหมูจีนพุ่งสูงดังปัจจุบัน

  1. ราคาหมูในจีนตกต่ำเป็นเวลานานเกินไป ประกอบกับผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ยังจมอยู่กับภาวะที่โรควนเวียนในฟาร์ม ทำให้มีหมูขายออกสู่ตลาดน้อยลง
  2. การควบคุมมลภาวะของรัฐบาล ที่ไม่ให้น้ำเสียออกจากฟาร์ม โดยต้องมีบ่อเกรอะเพียงพอกับจำนวนสุกรขุน หรือให้ทำไบโอแก๊ส ให้ฟาร์มที่ตั้งอยู่ในรัศมี 1-3 กิโลเมตร จากแหล่งน้ำสายน้ำลำคลอง ทำให้ทั่วประเทศเลิกเลี้ยง หรือย้ายไปทำฟาร์มไกลออกไป เกิดขีดจำกัดกับผู้เลี้ยง ต้องลงทุนเพิ่ม ต้องลดจำนวนสัตว์ลง ต้องเลิกกิจการไป
  3. โรค PED ยังกระทบกับลูกสุกรดูดนมและเกิดผลเสียหาย ต่อผลผลิตหลัก ทำให้ฟาร์มยังคงมีโรครายล้อมพร้อมต้นทุนค่ายาค่าวัคซีนที่สูงขึ้น ทำให้รายเล็กรายย่อยจนถึงรายกลางจำนวนมากยกธงขาวเลิกเลี้ยงไป

ที่มา : สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ

Visitors: 397,125