บทความพิเศษ...ภาคอุตสาหกรรมจับแพะชนแกะงับผลมั่วปัญญาภิวัฒน์ แถมสวมบทกูรูแนะเกษตรเสียหายทำโมเดิร์นฟาร์ม

บทความพิเศษ...ภาคอุตสาหกรรมจับแพะชนแกะงับผลมั่วปัญญาภิวัฒน์ แถมสวมบทกูรูแนะเกษตรเสียหายทำโมเดิร์นฟาร์ม

กลุ่มทุนอุตสาหกรรมจับแพะชนแกะหนุนรัฐบาลเจรจาเข้าร่วม "ทีทีพี" พร้อมหาวิธีช่วยเหลือกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย-ได้รับผลกระทบ

จากข่าวที่นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า ที่ประชุม กกร.เมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่ามีมติสนับสนุนให้รัฐบาลเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือ ทีพีพี เพราะสมาชิก กกร.ประมาณร้อยละ 80-90 สนับสนุน ส่วนสมาชิกที่เหลืออาจได้รับผลกระทบจะให้แต่ละกลุ่มไปศึกษาว่าจะดำเนินการอย่างไร และต้องการความช่วยเหลืออย่างไร เพื่อเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป 

จากข่าวการแถลงข่าวร่วมของนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  ดังกล่าวเป็นภาพที่กลุ่มทุนกำลังกดดันรัฐบาล โดยนายสุพันธุ์ ใช้นักลงทุนต่างชาติกับคำอ้างถึงความกังวลว่าประเทศไทยจะเข้าร่วมทีพีพีหรือไม่ หากไม่เข้าร่วมอาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายการลงทุนในประเทศไทย  ซึ่งเป็นชุดคำอ้างที่กลุ่มทุนใช้คำนี้มาอย่างยาวนาน ชงกลุ่มทุนขนาดใหญ่เพื่อกลืนผลประโยชน์ชาติ โดยผลักภาระให้เงินแผ่นดินคือกองทุนเอฟทีเอ ที่เป็นเงินของแผ่นดิน ในขณะที่ประโยชน์ที่ภาคอุตสาหกรรมจะได้รับเป็นเพียงภาพมายาที่เป็นสมมติฐานเท่านั้น เช่น การกล่าวอ้างผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการส่งสินค้าไปอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ที่นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย อ้างว่าเข้าร่วม TPP แล้ว ทั้งๆ ที่สองประเทศไม่ได้เป็น 1 ใน 12 ประเทศอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

 

การให้ข่าวในข้ออ้างของ 2 ผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรม แสดงถึงการมองด้านผลประโยชน์ด้านเดียวโดยนำข้อมูลไม่ถูกต้องมาแถลงข่าว ที่นอกจาก อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ไม่ได้เป็น 1 ใน 12 ประเทศอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ในขณะที่ 2 ประเทศนี้อยู่ใน เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area หรือ AFTA) มีประโยชน์จากภาษี 0% อยู่แล้ว ไม่ควรนำมาอ้างแถลงข่าว เพื่อสนับสนุนการเข้า TPP เพื่อวัตถุประสงค์ประโยชน์ทางภาษีนี้อีกแต่ประการใด โดยการที่ผลิตสินค้าเพื่อให้ประเทศอื่นผลิตต่อนั้น ควรจะเป็นการบ้านให้ 2 ผู้นำกลับไปประสาน Supply Chain เหล่านี้ให้มาต่อยอดกับภาคอุตสาหกรรมไทยจะเป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและยกระดับหรือเพิ่มนวัตกรรมของสินค้าอุตสาหกรรมซึ่งจะสนับสนุนนโยบายของท่านรองนายกสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ให้เป็นรูปธรรมด้วย

 

ภาคอุตสาหกรรมต้องหันหน้ามาหารือกับภาคปศุสัตว์ เพราะท่านไม่ได้ศึกษาผลได้ผลเสียของประเทศอย่างจริงจัง เพราะถ้าเราตั้งสมการง่ายๆ ให้เห็นภาพชัดเจนของแต่ละกลุ่มในการเข้าเป็นภาคีสมาชิก TPP คือ

 

ภาคอุตสาหกรรมมีแต่      : เจ๊า vs เจี๊ยะ

ภาคปศุสัตว์มีแต่              : เจ๊ง vs เจ๊ง

การแถลงข่าวร่วมที่เป็นคำอ้างที่ไม่ถูกต้องของผู้นำสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นการนำข้อมูลอะไรก็ได้มาสนับสนุนมติของกลุ่มสมาชิกตนเพื่อนำเสนอต่อสาธารณะ เพราะวิเคราะห์แล้วภาคอุตสาหกรรมมีแต่ได้กับเสมอตัว โดยไม่มองประโยชน์ในองค์รวมของชาติ

 

บทวิเคราะห์โดย...นักข่าวเกษตรอิสระ 12 มกราคม 2559

จากลิงค์ข่าวจาก : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/686215

Visitors: 396,884