“ปศุสัตว์” ดัน 58 ด่านกักกันสัตว์หนุนการค้ารับมือเข้าสู่เออีซี

“ปศุสัตว์” ดัน 58 ด่านกักกันสัตว์หนุนการค้ารับมือเข้าสู่เออีซี

24 กันยายน 2558 กรมปศุสัตว์เตรียมพร้อม 58 ด่านกันกันสัตว์ รองรับการค้า หลังเปิดเออีสั่งเจ้าหน้าที่คุมเข้มเคลื่อนย้ายสัตว์-ซากสัตว์ พร้อมเฝ้าระวังลักลอบนำเข้า สร้างความเชื่อมั่นกลุ่มอาเซียน

        นายอยุทธ์  หรินทรานนท์  อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมปศุสัตว์ได้เร่งเตรียมความพร้อมด่านกักกันสัตว์ 58 ด่านทั่วประเทศเป็นด่านสากล 9 ด่าน ด่านกักกันสัตว์ภายในประเทศ 21 ด่าน และด่านชายแดน 28 ด่าน เพื่อสนับสนุนการค้าสินค้าปศุสัตว์ไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี เบื้องต้นกรมปศุสัตว์มีแผนเร่งพัฒนาศักยภาพด่านในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 7 ด่านหลัก ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย มุกดาหาร ตาก สระแก้ว เชียงราย ตราด และสงขลา

        นาอยุทธ์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ยังมีแผนพัฒนาระบบไอที และระบบสื่อสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูล เพิ่มศักยภาพห้องปฏิบัติการ ทดสอบสินค้าปศุสัตว์

        “ยังมีแผนสร้างความร่วมมือระหว่างด่านกักกันสัตว์ของไทยกับลาว พม่า กัมพูชา และมาเลเซีย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมตรวจสอบสินค้าปศุสัตว์ที่ส่งออกและนำเข้าตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะฟาร์มที่ผลิตเพื่อการส่งออก ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานฟาร์มจากกรมปศุสัตว์ สามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังแหล่งผลิตได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้า และขยายโอกาสทางการตลาดเพิ่มสูงขึ้น”

        นายอยุทธ์ กล่าวว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ในพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมเพิ่มมาตรการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพสัตว์และซากสัตว์ก่อนนำเข้า-ส่งออก และเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าสัตว์และซากสัตว์เข้ามาในประเทศ

        “ปัจจุบันไทยมีการส่งออกสินค้าปศุสัตว์มากกว่านำเข้า ทั้งสินค้าแปรรูป สัตว์มีชีวิต และอาหารสัตว์ ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยของสินค้าปี 2558 ได้ตั้งเป้าส่งออกสินค้าปศุสัตว์ไว้ที่ 170,000-200,000 ล้านบาท นายอยุทธ์ กล่าว

Visitors: 397,152