SAT Rush NACC pork smuggling cases

สมาคมหมูจี้ ป.ป.ช. เร่งทำสำนวนคดีหมูเถื่อน ส่งอัยการคดีพิเศษสั่งฟ้อง ฟื้นศรัทธากระบวนการยุติธรรมของประเทศ                                               

3 ธันวาคม 2568 ป.ป.ช.นนทบุรี - สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติขอติดตามคดีการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์(สุกร)เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบ หรือคดีหมูเถื่อน หลัง DSI ส่ง 11 สำนวนมา ป.ป.ช.กว่า 15 เดือน

          นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ มีหนังสือด่วนถึงเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อเร่งรัดคดีการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์(สุกร)เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบ หรือ คดีหมูเถื่อน ที่ตั้งต้นจากตู้สินค้าสุกรตกค้างที่ท่าเรือแหลมฉบังจำนวน 161 ตู้ 

           โดยมีเนื้อหาในหนังสือ...“หลังจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้ยื่นแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ พนักงานสอบสวนว่ามีการกระทำความผิดจากตู้สินค้าสุกรลักลอบตกค้างที่แหลมฉบังจำนวน 161 ตู้ ไว้ที่สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบังเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 และมีการนำคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ เลขที่ 59/2566 เมื่อ 29 มิถุนายน 2566 โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการแตกเลขคดีพิเศษเป็น 12 เลขคดี และมีการส่งสำนวนเลขคดีจำนวน 11 สำนวน มายังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกระทำความผิด สำนวนแรกที่ 59/2566 ตั้งแต่ 24 พฤศจิกายน 2566 จนปัจจุบันทั้ง 11 สำนวน`อยู่ระหว่างการทำคดีของ ป.ป.ช.ร่วมกับ DSI เพื่อเตรียมส่งอัยการแผนกคดีพิเศษ ที่จะสามารถสั่งฟ้องและเข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไป โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษสืบสวนสอบสวนแล้ว ได้แบ่งสำนวนออกเป็นจำนวน 12 เลขคดีพิเศษ จำนวน 3 กลุ่ม

กลุ่มที่ 2 สินค้านำออกสู่ท้องตลาดแล้ว

          จากการตรวจสอบขยายผลเพิ่มเติม พบมีกลุ่มนิติบุคคลที่มีความเชื่อมโยงกับกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับไว้เป็นคดีพิเศษ จำนวน 10 เรื่อง และมีการนำสินค้าดังกล่าวออกไปจำหน่ายตามท้องตลาดแล้ว ผลการตรวจสอบข้อมูลในระบบของกรมศุลกากร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 พบว่า มีใบขนสินค้ารวมทั้งหมด 2,385 ใบขน มีมูลค่าสินค้านำเข้า จำนวน 1,566,760,187.79 บาทDSI รับเป็นคดีพิเศษที่ 126/2566 ระหว่างการประสานความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศ (Treaty on Mutual Legal Assistance in Criminal Matters (MLAT)) ที่มีการส่งสินค้าดังกล่าวเข้ามาในราชอาณาจักร

กลุ่มที่ 3 กลุ่มขบวนการสวมสิทธิถิ่นกำเนิด

          จากการตรวจสอบขยายผล ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ได้มีขบวนการร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออกสินค้าซากสัตว์ประเภทต่าง ๆ เพื่อสวมสิทธิถิ่นกำเนิดสินค้าผลิตและส่งออกจากราชอาณาจักรไปยังต่างประเทศ DSI ได้รับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 127/2566 เมื่อ 3 มกราคม 2567 ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว มีผู้ต้องหาจำนวน 14 ราย ประกอบด้วย นายทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยทั้งข้าราชการประจำและฝ่ายการเมือง ได้ทำการสอบสวน

เสร็จสิ้นแล้ว ส่งสำนวนไป ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567

เนื่องจากทั้ง 11 สำนวนที่ส่งต่อมายัง ป.ป.ช. แล้วนั้น มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ นายทุน บริษัทชิปปิ้ง ซึ่งเป็นกลุ่มขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรรวมในสำนวนเดียวกัน  สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติจึงขอติดตามการทำคดีดังกล่าวเนื่องจากปัจจุบันสันนิษฐานว่ายังคงมีปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรโดยไม่ถูกกฎหมาย ทำให้การประกอบอาชีพภาคสุกรของไทย ยังคงต้องเผชิญ กับ ส่วนเกินในตลาดที่ยังคงมารบกวนราคาสุกรอย่างต่อเนื่อง

          เพื่อให้สังคมมีความมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของไทย ในการทำคดีที่จำเป็นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว สมาคมฯ ขอติดตามและขอให้เร่งรัดการทำคดีดังกล่าว เพื่อที่จะได้ดำเนินการส่งคดีในลำดับขั้นต่อไป เพื่อให้ผู้ทำความผิดได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด และไม่กระทำความผิดอีกเนื่องจากคดีดังกล่าวกระทบกับการประกอบอาชีพและเศรษฐกิจในวงกว้างมาอย่างยาวนาน โดยมีผลกระทบชัดเจนตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก…”

          นายสิทธิพันธ์ ได้กล่าวถึงสถานะการค้าสุกรในปัจจุบันหลังผู้เลี้ยงพยายามทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นการบริโภค และการรับรู้ถึงความเสียหายจากการขาดทุน ราคาเริ่มขยับเข้าใกล้ต้นทุน ในขณะที่ต้นทุนการผลิตไตรมาสที่ 4 ลดลงมาอยู่ที่ 74 บาทต่อกิโลกรัมสำหรับเกษตรกรที่ซื้อลูกสุกรเข้าขุน ก็จะทำให้ลดการขาดทุนได้เร็วขึ้น แต่ปัญหาเนื้อสุกรลักลอบที่สันนิษฐานว่าเริ่มเข้ามา จะทำให้การขยับข้ามต้นทุนทำได้ยากมากขึ้น จึงจำเป็นต้องเร่งรัดการทำคดีของ ป.ป.ช.ให้เร็วขึ้น

          ส่วนเลขคดีพิเศษที่ 126/2566 ที่เป็นการกระทำความผิดในอดีต ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 ที่ยังอยู่ในการทำสำนวนที่ DSI ก็มีความสำคัญมากที่จะเบรคผู้กระทำความผิดให้ได้ เพราะเป็นเครือข่ายเดียวกันกับผู้ที่สันนิษฐานว่ามีการนำเข้ามาใหม่  เพราะขบวนการนี้ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรไทยทะยอยเลิกเลี้ยงไป จึงขอให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจะจัดการกับขบวนการนี้ เพิ่มความเข้มงวดตั้งแต่การตรวจปล่อย การสำแดงเท็จต่างๆ ตลอดจนการเคลื่อนย้าย เพื่อไม่ให้โครงสร้างการประกอบการของพลเมืองเกิดการกระจุกตัว ที่ไม่เป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศชาติในระยะยาว../ 

Visitors: 511,876