สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติลงพื้นที่ด่านเชียงแสน ร่วมแก้ปัญหากับเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อให้การค้าชายแดนคล่องตัว
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติลงพื้นที่ด่านเชียงแสน ร่วมแก้ปัญหากับเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อให้การค้าชายแดนคล่องตัว
7 กันยายน 2558 นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาตินำคณะกรรมการสมาคมเดินทางไปท่าเรือส่งออกเชียงแสน จ.เชียงราย ระหว่างวันที่ 6-7 กันยายนที่ผ่านมาเพื่อช่วยเหลือการค้าสุกรมีชีวิตแนวชายแดน
สืบเนื่องจากปัญหาการร้องเรียนมลภาวะที่เกิดจากปริมาณการขนส่งสุกรมีชีวิตเพื่อรอการผ่านแดนไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) บริเวณด่านเชียงแสน โดยมีปลายทางยังตอนใต้ของประเทศจีน
- ดูการส่งออกสุกรขุนไปประเทศจีน โดยประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ด่าน โดยมี นายพินิจ แก้วจิตคงทอง นายอำเภอเชียงแสนเป็นประธานที่ประชุม โดยมีหัวข้อประชุมทั้งร่วมกันขจัดปัญหาติดขัดด้านพิธีการและจัดการเรื่องสวัสดิภาพสัตว์ระหว่างรอผ่านด่าน และประชุมปัญหาข้อเรียกร้องมลภาวะท่าเรือเชียงแสน จ.เชียงราย
- ประชุมร่วมก่อตั้งชมรมผู้ประกอบการส่งออกสุกรไปประเทศจีน เพื่อให้การส่งออกมีความเข้มแข็ง มีการประสานงานกับหน่วยราชการอย่างถูกต้องและเกิดความรวดเร็วซึ่งจะส่งผลให้ราคาและอาชีพมีเสถียรภาพมากขึ้นตามไปด้วย
ล่าสุดการแก้ปัญหาจุดผ่านแดนส่งสัตว์ของชมรมผู้ส่งออกได้ข้อสรุปการจัดการแก้ปัญหาและเริ่มดำเดินการในวันนี้ (8 กันยายน 2558) โดยกำหนดจัดการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 21 กันยายน 2558 นี้ โดยมีประเด็นหลักๆ ดังนี้
- หาที่พักสัตว์และทำความสะอาดสัตว์ก่อนจัดลำดับเข้าลงช่องบริการขนถ่ายสุกรลงเรือตามลำดับก่อนหลัง
- ปรับปรุงจุดผ่านแดนสำหรับขนถ่ายสุกรลงเรือให้มีความสะดวกมากขึ้น จัดการเรื่องความสะอาดและเพิ่มช่องบริการผ่านด่าน
- ตั้งชมรมโดยมีกำนันแก้วในพื้นที่เป็นประธานชมรม ซึ่งจะสะดวกขึ้นกรณีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งหลักๆ จะเป็นเจ้าหน้าที่จากอำเภอเชียงแสน
ปัจจุบันการค้าชายแดนสุกรมีชีวิตผ่านด่านเชียงแสนเฉลี่ย 3,000-3,500 ตัวต่อวัน สามารถสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ได้เฉลี่ย 8,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางที่สำคัญต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเป็นอย่างยิ่ง