Meet Politician

พรศิลป์เตรียมนำทัพภาคปศุสัตว์จับเข่าคุยนักการเมือง สร้างความรู้ ความเข้าใจให้ถูกต้อง ในการบริหารงานภาคปศุสัตว์

8 มกราคม 2567 สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย - นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยส่งหนังสือถึงผู้ประกอบการด้านปศุสัตว์ ทั้งไก่เนื้อ ไก่เนื้อส่งออก และสุกร เพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์และปศุสัตว์

                     เมื่อย้อนหลัง 10 ปี กับอุปสรรคต่างๆ นานาในการประกอบอาชีพ ภาคอาหารสัตว์และปศุสัตว์ จะเห็นว่ามีมหากาพย์ในการเรียกร้อง เรื่องเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา แต่ก็หาทางออกในการแก้ปัญหาไม่ได้ สร้างปัญหาภาระให้กับภาคปศุสัตว์ เป็นอย่างมาก

                     ประกอบกับมีขบวนการหมูเถื่อนตั้งแต่ 2564 จนถึงปัจจุบัน และมีปัญหาการลักลอบนำเข้าสวมสิทธิ์สินค้าตีนไก่บ้าง เนื้อวัวเถื่อนบ้าง จนทำให้น่าจะถึงเวลาในการจับเข่าคุยกันระหว่างนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่มีปัญหาหนักขึ้นจน DSI เรียกขบวนการลักลอบนำเข้าซากสุกรว่า “องค์กรอาชญากรรม” ที่ประกอบไปด้วย ข้าราชการประจำหลายกรม นักการเมือง นักธุรกิจเอกชน โดยอ้างอิงนโยบายรัฐ 

                     ปัญหาดังกล่าวได้สร้างความเสียหายต่อภาคอาหารสัตว์และภาคปศุสัตว์อย่างต่อเนื่อง โดยปัญหาที่เกิดสะท้อนการขาดความรู้ความเข้าใจในการประกอบอาชีพ ของภาคอาหารสัตว์และปศุสัตว์ ซึ่งถ้าปล่อยไปแบบนี้ก็จะไม่มีผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

ปัญหาพรรคการเมืองยังขาดความเข้าใจการทำธุรกิจอาหารสัตว์และปศุสัตว์

                     การขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ อำนาจตามกฎหมายของกระทรวง ที่รับผิดชอบ ทำให้มีการทำงานแบบ ไม่มีความรู้ ขาดความรอบด้าน ดูแลบางส่วนที่มีกลุ่มของเกษตรกรจำนวนมาก  แต่ไปสร้างผลกระทบกับกลุ่มอุตสาหกรรมปลายน้ำ ที่ต้องแบกภาระต้นทุน แถมยังไปคุมราคาตามอำเภอใจของผลผลิตภาคปศุสัตว์ทั้งโดยตรงและอ้างผู้บริโภค  

                     ซึ่งเป็นการที่ทำให้ภาคปศุสัตว์ ไม่สามารถที่จะเดินหน้าประกอบอาชีพได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล ส่งผลกระทบมากมาย ต่อปัญหาหนี้สินภาคเกษตรกรรม ที่เป็นส่วนหนึ่งของหนี้สินภาคครัวเรือน  ซึ่งเป็นพารามิเตอร์ที่มีความสำคัญ และนักการเมืองมักกล่าวอ้างโจมตีกันไปมา แต่ไม่มียุทธศาสตร์ในการที่จะแก้ไข กลับมีแนวทางที่จะซ้ำเติมให้มันเกิดขึ้น สร้างปัญหาด้านการเงิน การสิ้นเนื้อประดาตัวให้กับพลเมืองภาคปศุสัตว์ ขาดทั้งความรู้ความสามารถในการบริหารและขาดความตระหนัก ในเรื่องของ การบริหารเชิงตัวเลขพารามิเตอร์ต่างๆ

                      สะท้อนให้เห็นถึง ไม่มีความพร้อมที่จะเข้ามาเพื่อบริหารงานบ้านเมือง ซึ่งนับวันคุณภาพของภาคการเมืองต่ำลงจน แทบไม่น่าเชื่อว่า มีแนวคิดในการบริหารเศรษฐกิจที่ไม่เป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น เช่น อ้างแต่การแก้ปัญหาปากท้อง การลดค่าครองชีพ ทั้งๆ ที่ประเทศพัฒนาที่โดดเด่น มีแนวคิดการแก้ปัญหาความยากจน การเข้าถึงอาชีพที่ยั่งยืน มากกว่าการเอาแต่จะแจกเงิน ที่มาจากการสร้างหนี้สินสาธารณะ

Visitors: 397,167