ยุทธศาสตร์สุกรไทย 5 ปี(2563-2568) เราจะไปจุดไหน
ยุทธศาสตร์สุกรไทย 5 ปี(2563-2568) เราจะไปจุดไหน
5 กุมภาพันธ์ 2563 สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ - ยุทธศาสตร์สุกรไทยของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากมีการพยายามผลักดันมานาน โดยจะมีการระดมความคิดเห็นครั้งแรกช่วง 4-6 มีนาคม 2563 ในการประชุมคณะกรรมการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
หลังจากประเทศไทยมียุทธศาสตร์ 20 ปี ระหว่างปี 2560-2580 ทำให้หลายอุตสาหกรรมเริ่มที่จะร่างยุทธศาสตร์ของตัวเองกัน ซึ่งจะต้องมีความเชื่อมโยงกัน กับ ยุทธศาสตร์หรือนโยบายต่างๆ ในแต่ละองค์กรที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งในขณะเดียวกันยุทธศาสตร์สุกรเองที่จะต้องแยกเป็น 6 ภูมิภาคเพื่อความสอดคล้องกับสภาพที่แตกต่างกันในแต่ละองค์ประกอบ ก็จะเป็นตัวตั้งต้นของภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ต่อไป เช่น
ยุทธศาสตร์อื่นๆ เพื่อการบูรณาการผลิต มาตรฐาน และการตลาด :
- ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (ในส่วนของภาคเกษตรกรรม)
- ยุทธศาสตร์สุกรของกรมปศุสัตว์
- นโยบายครัวโลก ความมั่นคงทางอาหาร
- นโยบายอาหารปลอดภัย
- แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)
- การควบคุมการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์ม
- คณะกรรมการนโยบายอาหารแห่งชาติ
- สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
- สมาคมภัตตาคารไทย/วิสาหกิจชุมชนด้านอาหารแปรรูปจากเนื้อสุกร/สถาบันการศึกษาด้านเทคโนโลยีอาหาร เพื่อออกแบบเมนูอาหารจากเนื้อสุกรรองรับตลาดใหม่ๆ หรือกระตุ้นการบริโภคเมนูหมู
- สมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทย
- สมาคมธุรกิจเวชภัณฑ์สัตว์
- สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย
- สมาคมผู้ผลิตและแปรรูปสุกรเพื่อการส่งออก
- ฯลฯ
ยุทธศาสตร์สุกรไทย 5 ปี(2563-2567) เราจะไปจุดไหน
การตั้งค่าเป้าหมาย (เราต้องการไปจุดใด)
- วิสัยทัศน์อุตสาหกรรมพันธกิจและเป้าหมาย
o วิสัยทัศน์
เช่น ตัวอย่างของวิสัยทัศน์ดังต่อไปนี้:
วิสัยทัศน์
ตัวอย่าง เช่น อุตสาหกรรมหมูที่ยั่งยืนและแข่งขันได้ทั่วโลกภายในปี 2567
- หน้าที่
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของยุทธศาสตร์ ตามภารกิจดังต่อไปนี้:
1 ปรับปรุงและปรับโครงสร้างการผลิตและห่วงโซ่หลังการผลิตสู่การขายและระบบการตลาดเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณค่าทางโภชนาการที่ปลอดภัยราคาไม่แพง และเข้าถึงได้ง่ายแก่ผู้บริโภค
2 ยกระดับเกษตรกรรายย่อยจากความยากจนและเพิ่มความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รักษาสภาพสิ่งแวดล้อม และสร้างชุมชนสัมพันธ์อย่างยั่งยืน
3 ให้เอื้อประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการทุกส่วนตลอดห่วงโซ่ เพื่อให้ทันยุคทันสมัยถูกสุขอนามัย และสามารถแข่งขันได้ทั่วโลก
- เป้าหมาย
โดยสรุปยุทธศาสตร์มีวัตถุประสงค์ต่อไปนี้:
1 เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของฟาร์ม โดยมีเป้าหมายพารามิเตอร์หลักๆ แต่ละช่วงเวลาเป็นตัวประเมิน
(แบบจำลองเพื่อวางยุทธศาสตร์)
2 การลดต้นทุนของปัจจัยการผลิต ที่ 65-70% เป็นต้นทุนอาหารสัตว์ ที่มีข้าวโพด กากถั่วเหลือง ปลายข้าว รำข้าว เป็นพืชอาหารสัตว์ ที่ส่วนหนึ่งรัฐบาลดูแลการพยุงราคา ในขณะที่มีแนวทางควบคุมเพดานของราคาสุกรในช่วงกลไกตลาดปรับตัว ด้วยเหตุผลดูแลค่าครองชีพผู้บริโภค ทำให้การบริหารจัดการลดต้นทุนจึงเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์
(แบบจำลองเพื่อวางยุทธศาสตร์)
3 ปรับปรุงและปรับโครงสร้างหลังการผลิตและระบบการตลาดให้ทันสมัย มีการแบ่งปันห่วงโซ่มูลค่าระหว่างผู้เลี้ยง ผู้ประกอบการทั้งระบบ อย่างยุติธรรม
4 เพิ่มการเข้าถึงข้อมูลและบริการเสริมของเกษตรกรรายย่อย
5 การยอมรับกฎ เช่น ระบบฟาร์มมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ และมาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร
6 ปรับปรุงสถานะสุขภาพสัตว์ ผ่านระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ แผนลดการใช้ยาปฏิชีวนะ
7 สร้างการลงทะเบียนของผู้เล่นในตลาด (เช่น ผู้ค้าหน้าฟาร์ม ผู้ส่งออก และผู้ค้าปลีก) ทั้งผ่านภาคบังคับของ พรบ.สุกรและเนื้อสุกร และกฎหมายอื่นๆ ของกรมปศุสัตว์ เช่น พรบ.โรคระบาดสัตว์
2. กลยุทธ์และนโยบาย (เราจะไปอย่างไร)
2.1 โปรแกรมการกระทำและ (Key Result Areas (KRAs)) สำหรับอุตสาหกรรมหมู
ประเทศไทยมีการบริโภคเนื้อสุกรเป็นโปรตีนหลัก ตลาดในประเทศจึงเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับหมูและความต้องการเนื้อสัตว์ต่างๆ ได้รับผลกระทบทางบวกจากจำนวนประชากรและรายได้ ตลอดจนธุรกิจการท่องเที่ยว จากนักท่องเที่ยว โดยการพัฒนาเมนูอาหารใหม่ๆ หรือเพิ่มทักษะเมนูเดิมจากเนื้อสุกรจะเป็นตัวเร่งความต้องการให้มากขึ้น จากการประมาณการของประชากรของไทย และการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว ในแต่ละปี ต้องใช้หมูประมาณเท่าไร เพื่อสนองความต้องการ นอกจากการคาดการณ์การเติบโต ความจำเป็นต้องเพิ่มการผลิตในท้องถิ่นเพื่อตอบสนองความต้องการในท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้นรวมถึงข้อกำหนดของผู้แปรรูป ด้วยการสนับสนุนที่จำเป็นมากจากภาครัฐ ผู้ผลิตในท้องถิ่นสามารถจัดหาข้อกำหนดเนื้อหมูของผู้แปรรูป ได้อย่างง่ายดาย (เช่น การปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร) เพื่อที่จะไม่พึ่งจากการนำเข้านอกพื้นที่อีกต่อไป
(แบบจำลองเพื่อวางยุทธศาสตร์)
ในปี 2563 ประชากรหมูทั้งหมดเท่ากับ 22 ล้านตัว ฟาร์มหลังบ้านและฟาร์มเพื่อการพาณิชย์คิดเป็น 90% และ 10% ของประชากรหมูทั้งหมดตามลำดับ ผลผลิตจากฟาร์มหลังบ้านอยู่ที่ 10% ผลผลิตจากฟาร์มเชิงพาณิชย์อยู่ที่ 90% ซึ่งสัดส่วนเหล่านี้สามารถนำมาสร้างเป้าหมายที่สามารถเชื่อมโยง
กลยุทธ์ต่อไปนี้ถูกตั้งค่าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้
(แบบจำลองเพื่อวางยุทธศาสตร์)
เราสามารถใช้ HOG INDUSTRY ROAD MAP (2017-2027) ของฟิลิปปินส์ ตาม File แนบ มาเป็นตัวอย่างของแบบจำลองได้