เทคนิคการให้อาหารสุกรเพื่อลดต้นทุน และเพิ่มเปอร์เซ็นต์เนื้อแดงในยุคปัจจุบัน
เทคนิคการให้อาหารสุกรเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มเปอร์เซ็นต์เนื้อแดงในยุคปัจจุบัน
โดย รองศาสตราจารย์ ดร.เยาวมาลย์ ค้าเจริญ ภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น
อาชีพการเลี้ยงสุกรในประเทศไทยปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนาและก้าวหน้ามาก ส่วนใหญ่มักเป็นฟาร์มขนาดกลางและขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงมีการพัฒนากันในเวลาเดียวกันหลายด้าน เริ่มตั้งแต่การปรับปรุงพันธุ์และการเปลี่ยนแปลงพันธุ์ที่โตเร็ว ให้ผลผลิตสูงและคุณภาพซากต้องดีด้วย ผู้เลี้ยงสุกรจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาเกี่ยวกับการประกอบสูตรอาหาร การจัดการเลี้ยงดู ตลอดจนโรงเรือน ให้เหมาะสมและประหยัดเพื่อหาแนวทางพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิตโดยเฉพาะเกี่ยวกับอาหาร เพราะต้นทุนเกี่ยวกับการผลิตนั้นเป็นค่าอาหารประมาณ 60-80% หากผู้เลี้ยงสามารถลดต้นทุนส่วนนี้ลงได้ โอกาสที่จะยืนหยัดในธุรกิจการผลิตสุกรก็ยิ่งมีสูงขึ้น
เทคนิคขั้นตอนในการให้อาหารสุกรเพื่อลดต้นทุนและเปอร์เซ็นต์เนื้อแดงมีดังนี้คือ
1. พันธุกรรมของสุกรที่จะนำมาขุนเป็นสุกรเนื้อ พันธุ์มาตรฐานส่วนใหญ่เป็น 3 สายเลือด ซึ่งควรจะทราบอัตราการเจริญเติบโตของแต่ละช่วงอายุและน้ำหนัก จึงจะสามารถประกอบสูตรอาหารได้ถูกต้องตามความต้องการของพันธุกรรม
2. ชนิดของพื้นคอกและโรงเรือน
3. การจัดการและวิธีการให้อาหาร
4. น้ำหนักและอายุของแต่ละช่วงฤดูกาลที่ส่งสุกรจำหน่าย
ปัจจัยทั้ง 4 ประการนี้ถ้าได้ข้อมูลละเอียดและถูกต้องก็จะสามารถนำมาพัฒนาการประกอบสูตรอาหาร เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มเปอร์เซ็นต์เนื้อแดงดังนี้
1. ประกอบสูตรอาหารให้สุกรขุนได้รับสารอาหารต่อตัวต่อวันให้พอเหมาะโดยไม่ให้น้อยหรือมากเกินไป
2. ต้องรู้ขบวนการใช้ประโยชน์ของอาหารสุกร สุกรเมื่อกินอาหารเข้าไปแล้วจะนำไปใช้ประโยชน์ 3 ทางคือ ดำรงชีพ ทำกิจกรรมต่างๆ และเจริญเติบโตคือ ให้เนื้อและให้ผลผลิต ดังนั้นจะต้องให้อาหารให้พอเพียงแต่ไม่ใช่มากเกินพอ ถ้าให้อาหารไม่ถูกต้องก็จะไม่สามารถลดต้นทุนได้และยิ่งกลับทำให้คุณภาพซากไม่ดีอีกด้วย
3. จะต้องรู้อัตราการเจริญเติบโตและปริมาณอาหารที่ใช้ประโยชน์ ตามปกติอัตราการเจริญเติบโตของสุกรจะเพิ่มขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นเพียงระยะเวลาหนึ่งแล้วค่อยๆ ลดลง และในทำนองเดียวกันประสิทธิภาพการใช้อาหารจะค่อยๆ ลดลงเมื่อสุกรมีอายุมากขึ้น
ตารางที่ 1 แสดงประสิทธิภาพการใช้อาหาร (เอฟซีอาร์) ของสุกรขุนในช่วงน้ำหนักต่างๆ
น้ำหนักสุกร (กก.) |
เอฟซีอาร์ |
|
อาหารคุณภาพทั่วไป |
อาหารคุณภาพดี |
|
7-15 15-30 30-60 60-100 20-100 |
1.4-1.6 2.1-2.3 2.8-3.0 3.7-4.0 2.7-2.8 |
1.2-1.4 1.8-2.1 2.4-2.8 2.8-3.3 2.5-2.6 |
รูปที่ 1 แสดงผลปริมาณอาหารที่ให้สุกรกินต่อคุณภาพซากและเอฟซีอาร์ของสุกรในช่วงอายุ
15-100 กก.
รูปที่ 2 แสดงการสร้างเนื้อแดงและไขมันของสุกรในช่วงมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
4. เทคนิคการปรับปรุงทางด้านปริมาณของสารอาหารต่างๆ ที่สุกรต้องการ
5. ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการใช้อาหารของสุกรมีดังนี้
ก. พันธุกรรม : อัตราการเจริญเติบโต เอฟซีอาร์ ความสามารถในการย่อยอาหาร
ข. อาหาร : ความฟ่าม คุณภาพ สิ่งปนเปื้อน ความอร่อย
ค. โรคต่างๆ และความคงทนต่อโรค
6. เทคนิคในด้านการคำนวณและการประกอบสูตรอาหารสุกร ซึ่งต้องพิจารณาดังนี้
ก. อาหารที่ให้พลังงาน : อาหารแป้งและไขมัน ซึ่งสุกรต้องย่อยได้ง่าย ไม่มีสารพิษ และไม่ฟ่ามมาก
ข. อาหารที่ให้โปรตีน : โปรตีนต้องคุณภาพดี ย่อยและนำไปใช้ประโยชน์ได้สูง ไม่มีสารพิษ ไม่มีกากสูง ไม่ฟ่าม และไม่มีเกลือเกินพิกัด
ค. วัตถุที่เติมในอาหารและอาหารเสริม : ต้องรู้จักคุณภาพที่แท้จริงและคุ้มกับราคาที่เติมลงไป ต้องรู้กลไกการออกฤทธิ์และการทำงานที่ชัดเจน และได้รับการพิสูจน์ในทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับ
ง. อาหารวิตามินและแร่ธาตุ : มีทั้งในรูปสารผสมล่วงหน้าหรือพรีมิกซ์ และวิตามินแร่ธาตุตัวเดี่ยวที่นำเข้ามาผสมใช้เอง ซึ่งจะต้องพิถีพิถันมากในการเลือกซื้อจึงจะสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้
จ. เทคนิคทางด้านการจัดการในการประหยัดอาหาร ควรให้อาหาร 90-95% ของปริมาณที่กินเต็มที่ ควรให้วันละ 2-3 ครั้งในปริมาณที่สุกรสามารถกินได้หมดในแต่ละมื้อเท่านั้น และควรเริ่มการจำกัดอาหารเมื่อสุกรมีน้ำหนักเกิน 45 กก. ขึ้นไป เพราะในช่วงแรกสุกรจะมีการสร้างเนื้อแดงและสะสมเนื้อแดงอย่างรวดเร็วมากในช่วงแรกเกิดถึง 40 กก. เมื่อสุกรมีน้ำหนักเกิน 45 กก. ให้จำกัดอาหาร จะทำให้สามารถประหยัดอาหารได้ประมาณ 5-10% และเอฟซีอาร์ดีขึ้น 5-7% นอกจากนี้คุณภาพซากเมื่อส่งตลาดดีขึ้นด้วย
7. เทคนิคในขบวนการทำอาหารที่ถูกต้องและได้มาตรฐาน ซึ่งต้องคำนึงถึง
ก. การบดอาหารในแต่ละชนิดและแต่ละประเภทให้เหมาะสม
ข. ขบวนการผสมอาหาร ซึ่งจะต้องมีมาตรฐานการตรวจเช็คในการผลิตทุกขั้นตอน
ค. ขบวนการเก็บและลำเลียงอาหารไปใช้
8. เทคนิคในการให้อาหารสุกรเนื้อตามมาตรฐานในแต่ละช่วงอายุต่างๆ เพื่อให้สุกรมีคุณภาพซากดี (ตารางที่ 2)
ตารางที่ 2 การให้อาหารสุกรเนื้อในช่วงอายุต่างๆ (กิโลกรัม)
อายุ(สัปดาห์) |
อาหาร/วัน |
อาหารสะสม |
อายุ(สัปดาห์) |
อาหาร/วัน |
อาหารสะสม |
4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 |
0.15 0.30 0.51 0.68 0.83 1.05 1.22 1.41 1.58 1.76 1.82 1.91 2.20 |
1.05 3.15 6.72 11.48 17.29 24.64 33.18 43.05 54.11 66.43 79.17 92.54 106.54 |
17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 |
2.09 2.20 2.20 2.20 2.20 2.20 2.20 2.20 2.20 2.20 2.20 2.20 |
121.17 136.57 152.32 167.72 183.12 198.52 213.92 229.32 244.72 260.12 275.52 290.92 |
หลักสำคัญในการให้อาหารสุกรในยุคปัจจุบัน
ปัจจุบันการเกิดปัญหาการบริโภคอาหารของประชาชนมักจะเป็นในเรื่องปัญหาของสุขภาพ และหวาดกลัวต่อการปนเปื้อนของสารต่างๆ เช่น ไดออคซิน โรควัวบ้า ไวรัสนก แอนแทร็ค สารตกค้างของยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าแมลง สารพิษจากเชื้อรา และอาหารดัดแปลงพันธุกรรม หรือ จีเอ็มโอ ปัญหาทั้งหมดเหล่านี้สร้างความเสียหายในทางเศรษฐกิจอย่างมากมายในแต่ละประเทศ ดังนั้นในแต่ละประเทศได้มีการวางมาตรฐานมหาชนต่อความเสี่ยงของอาหาร และบางประเทศวางมาตรฐานสูงกว่าการตรวจวัดได้จากการวิเคราะห์และประเมินทางวิทยาศาสตร์ (Scientific assessment) และมีผลกระทบอย่างมากต่อประเทศที่กำลังพัฒนาและส่งสินค้าไปขายในตลาดโลก โดยเฉพาะประเทศไทย ดังนั้นทางเลือกที่ดีของประเทศไทยจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือ
1. ให้ความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรกรในการจัดการอาหารให้ได้มาตรฐาน
2. แนะนำการใช้ยาปฏิชีวะและสารเคมีทั้งการฉีดและการผสมในอาหารให้ถูกต้อง
3. แนะนำการใช้วัตถุที่เติมในอาหารที่เหมาะสมและวิธีการใช้ที่ถูกต้อง
หลักสำคัญในการให้สูตรอาหารในยุคปัจจุบัน
เพื่อตอบสนองความต้องการกระแสการบริโภคทั้งในและต่างประเทศต่อห่วงโซ่ของอาหาร ต่อการเลี้ยงสุกรในประเทศ สิ่งสำคัญอันดับแรกในการเลี้ยงสุกร คือ อาหารสุกร ซึ่งจะมีผลต่อภาพรวมในการเลี้ยงสุกร ดังนี้คือ
1. ส่วนประกอบของวัตถุดิบในอาหารสัตว์
2. ขนาดและชนิดของอาหาร
3. การเกิดความเครียดของสัตว์ต่อการกินได้ของสัตว์
4. สภาพแวดล้อมต่อสุขภาพของสัตว์ ซึ่งจะมีผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อระดับของสารอาหารที่สุกรต้องการ
5. จุลินทรีย์เป็นโทษ สารพิษ ยาฆ่าแมลง และสารพิษจากเชื้อราที่มีอยู่ในอาหาร
ดังนั้นในการแก้ปัญหาในยุคปัจจุบันในการให้อาหารและการประกอบสูตรอาหาร มีดังนี้คือ
1. การเลือกใช้วัตถุที่เติมในอาหารสัตว์ควรต้องพิจารณาดังนี้
(1) ได้รับการพิสูจน์และยอมรับก่อนในตลาด
(2) พิจารณาคำจำกัดความให้มากยิ่งขึ้น
(3) ใช้แล้วไม่เกิดอันตราย
(4) ใช้ความรู้สึกความเป็นจริงเป็นเกณฑ์ตัดสินการให้สรรพคุณเกินความเป็นจริงเป็นยุทธวิธีที่น่าตกใจ (ต้องระวังและตรวจเช็ค)
2. ใช้เทคนิคในการประกอบสูตรอาหารโดยคำนึงการให้คุณค่าทางโภชนาการทั้งหมด (Total nutrition) ในการคำนวณสูตรอาหารสุกร โดยคำนึงถึง :
(ก) ลดต้นทุนการผลิต
(ข) ผลผลิตที่ได้ให้คุณค่าทางโภชนาการเพิ่มขึ้น
(ค) สัตว์ได้รับอาหารที่มีสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคได้เพิ่มขึ้นและปราศจากโรค
(ง) อาหารที่ใช้ต้องย่อยและดูดซึมได้ดี ในขณะเดียวกันสามารถควบคุมจุลินทรีย์ที่เป็นโทษในระบบทางเดินอาหารได้ดี และป้องกันการเกิดความเครียดที่เกิดขึ้นในสัตว์
(จ) ลดมลภาวะให้น้อยที่สุดต่อสภาพแวดล้อม
ดังนั้นการให้อาหารสุกรในยุคปัจจุบันจะต้องประกอบสูตรอาหารโดยใช้วิธีคำนวณจาก 2 แหล่งโมเลกุลในอาหาร 2 พวกใหญ่ๆ คือ
(1)โภชนะหรือสารอาหาร (Nutrients) ที่ได้รับจากโภชนะปกติ (conventional nutricals) จากวัตถุดิบอาหารต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของอาหาร 6 หมู่ที่มีอยู่แล้วในอาหาร เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน แร่ธาตุ วิตามิน และน้ำ
(2)โภชนะบำรุงสุขภาพหรือสารอาหารบำรุงสุขภาพ (nutricins) ซึ่งได้จากการสกัดจากสารธรรมชาติ หรือขบวนการหมัก การแปรรูปต่างๆ ซึ่งสารอาหารเหล่านี้จะช่วยเสริมและมีประโยชน์ในการรักษาสุขภาพและสวัสดิภาพ (health and welfare) ในร่างกายของสุกร ดังนั้นการคำนวณการให้อาหารแบบการให้คุณค่าทางโภชนาการทั้งหมดที่จำเป็นที่จะต้องได้ ทั้งโภชนะและโภชนะบำรุงสุขภาพรวมกัน จะทำให้เกิดการเชื่อมโยง (links) ระหว่างสูตรอาหาร (diet) สุขภาพ (health) โรค (disease) และสภาพแวดล้อมร่วมกัน
ตารางที่ 3 แสดงคุณลักษณะและสมรรถนะการผลิตมาตรฐานของสุกรระยะต่างๆ
น้ำหนักสุกร หรือสุกรใน ระยะการผลิตต่างๆ |
จำนวนวันที่ใช้ (วัน) |
ปริมาณอาหารที่กิน/ วัน (กรัม) |
อัตราการเจริญเติบโต ต่อวัน (กรัม) |
อัตราการ แลกเนื้อ |
นน. 5-15 กก. นน. 15-20 กก. นน. 20-25 กก. นน. 55-100 กก. ระยะอุ้มท้อง แม่สุกรสาวท้องแรก แม่สุกรท้องต่อมา ระยะเลี้ยงลูก พ่อสุกรระยะว่างงาน พ่อสุกรระยะทำงาน |
32 10 51 55
114 114 21-42 - - |
550 910 1300 2950
1800 1800 3200-4500 1800-2200 2200-3200 |
320 550 680 820
400 270 - - - |
1.72 1.82 2.67 3.60
- - - - - |