เข้มชายแดน สระแก้ว-กัมพูชา ยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมป้องกัน ASF
เข้มชายแดน สระแก้ว-กัมพูชา ภาครัฐ-เอกชนยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมป้องกัน ASF
10 เมษายน 2562 สระแก้ว - รองอธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นประธานประชุมยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพขยายการเข้มงวดแนวชายแดนมากขึ้น
นายสัตวแพทย์จีระศักดิ์ พิพัฒนพงศ์โสภณ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานในการประชุมเข้มเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์พื้นที่เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจแนวผ่านแดน โดยคุณสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและคณะกรรมการสมาคมฯ ได้เข้าร่วมประชุมประสานแนวทางเพิ่มความเข้มงวดในระดับฟาร์ม และเร่งการสร้างโรงพ่นยาฆ่าเชื้อมาตรฐานที่ด่านกักกันสัตว์อรัญประเทศที่ดำเนินงานโดย บริษัท ไทยฟู้ดส์กรุ๊ป จํากัด (มหาชน)
ปัจจุบันจังหวัดจุดเกิดโรคที่กัมพูชาในเมืองรัตนคีรี ติดชายแดนเวียดนาม แม้ยังไม่มีพื้นที่ติดโดยตรงกับจังหวัดชายแดนไทย ซึ่งอยู่ในข่ายที่กรมปศุสัตว์จะประกาศจังหวัดแนวชายแดนของไทยเป็นเขตเฝ้าระวัง ซึ่งระหว่างรอประกาศการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดมาตลอดอย่างต่อเนื่อง
ในการประชุมกรมปศุสัตว์ได้ประเมินความเสียหายหากมีการระบาดในประเทศไทยสูงถึง 125,602 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น
- กระทบตรงกับอุตสาหกรรมสุกรขุน 43,000 ล้านบาท
- กระทบการส่งออกทันทีประมาณ 5,000 ล้านบาท
- ธุรกิจอาหารสัตว์ 40,000 ล้านบาท
- ธุรกิจเวชภัณฑ์สุกร 2,100 ล้านบาท
- งบประมาณการป้องกันและควบคุมโรค ประมาณ 15,875 ล้านบาท
- ผลกระทบจากการควบคุมโรค ประมาณ 19,627 ล้านบาท
กรณีมติคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร(African Swine Fever : ASF) เป็นวาระแห่งชาตินั้น นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เผยว่า ทันทีที่ทราบมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 9 เมษายน 2562 ที่ได้ให้ความเห็นชอบแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเป็นวาระแห่งชาตินั้น ผู้เลี้ยงสุกรทั้งรายย่อย รายกลาง และรายใหญ่ต่างยินดี เนื่องจากจะทำให้การป้องกันโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งต้องขอขอบคุณนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ผลักดันเรื่องนี้เป็นผลสำเร็จ ทั้งนี้หากใช้กำลังเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์อย่างเดียวในการเฝ้าระวังโรค จำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ แต่เมื่อยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ รัฐบาลสามารถบูรณาการหน่วยงานทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และอื่นๆ ช่วยกันดูแลตามแผนที่กำหนดไว้ได้ดียิ่งขึ้น
“ถือว่า มติครม. ดังกล่าวออกมาได้ทันสถานการณ์ หลังมีการระบาดของ ASF ที่ประเทศกัมพูชา ทางสมาคมฯ ได้ประสานกับผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่ในกัมพูชาให้ควบคุมโรคโดยด่วนที่สุด เนื่องจากไทยส่งออกสุกรไปยังกัมพูชาด้วย เมื่อใช้ยานพาหนะขนส่งเข้าไป โอกาสที่เชื้อโรคจะปนเปื้อนมาจึงเป็นไปได้ ขณะนี้จึงเร่งดำเนินการก่อสร้างจุดฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคตามด่านชายแดน” นายสุรชัยกล่าว